ค น ห ล ง ท า ง

🌳 LOW CARBON TRIP 🌳 เที่ยวไทยสุด Chic แบบใส่ใจสิ่งแวดล้อม @TOYOTA GREEN TOWN อยุธยา

  •  

เมื่อเรื่องสิ่งแวดล้อม ถือเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราทุกคนต้องใส่ใจ และก็เป็นเรื่องที่หลายคน รวมทั้งตัวผมเองอาจจะยังไม่รู้ถึงการจัดการอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพลังงาน – น้ำ – ขยะ – ต้นไม้ จนอาจจะทำให้เผลอทำอะไรที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมโดยที่เราคาดไม่ถึง…

แล้วในวันนี้ ผมจะพาทุกคนไปเที่ยวอยุธยากันแบบสุด Chic และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยการขับรถฮาโม่คันจิ๋ว ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า ไปตระเวณ Check in แหล่งท่องเที่ยวที่ให้ความรู้ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อมและประวัติศาสตร์กันแบบจุใจในทริป ‘LOW CARBON กับโตโยต้า เมืองสีเขียว’ ที่จัดขึ้นโดย โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ที่นอกจากจะเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกในเรื่องของยานยนต์แล้ว ก็ยังเป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่ให้ความสำคัญในเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก

ซึ่งก็จะพาเราไปทำกิจกรรมมากมาย รวมทั้งไปเรียนรู้เรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และนำมาปรับใช้ เพื่อให้เมืองไทยเป็นเมืองน่าอยู่ และกลายเมืองสีเขียว เมืองในฝันสำหรับทุกคน …

อย่างที่ได้บอกไว้ครับ ว่าทริปนี้เราจะร่วมออกเดินทางไปกับ TOYOTA ซึ่งจุดนัดพบในครั้งนี้ก็คือ ‘TOYOTA BUZZ สาขาวิภาวดี’ ต้องบอกเลยว่าที่นี่เป็นโชว์รูมของ TOYOTA ที่เห็นภายนอกอาจจะดูเหมือนโชว์รูมรถทั่วไป

แต่จริงๆแล้วถือเป็น 1 ใน ECO Showroom ของ TOYOTA ที่ถูกออกแบบและก่อสร้างขึ้นภายใต้แนวคิดเพื่อให้เป็นโชว์รูมที่ใส่ใจด้านการประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ถ้าใครมีโอกาสผ่านมาแถวนี้ แนะนำว่าให้ลองเข้ามาใช้บริการกันดูได้นะครับ ที่นี่เค้าไม่ธรรมดาจริงๆ

ก่อนจะออกเดินทาง เราก็จะมานั่งพูดคุยกันถึงเรื่องเทคโนโลยี Hybrid เพื่อสิ่งแวดล้อมจากทาง TOYOTA เรียกว่าทุกวันนี้และในอนาคตข้างหน้า เราก็จะได้ขับรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นนั่นเองครับ

ได้เวลาที่เราจะต้องเดินทางกันแล้วครับบบบ ซึ่งในทริปนี้จุดหมายปลายทางของเราก็คือ ‘จังหวัดอยุธยา’ ครับ ว่าแต่เราจะแวะไปที่ไหนกันบ้าง ตามมาชมกันเลย…

ขับรถกันมาแค่อึดใจเดียว เราก็มาถึงที่ ‘TOYOTA GREEN TOWN’ หรือ ‘โตโยต้า เมืองสีเขียว’ ที่จังหวัดอยุธยากันแล้วครับ ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับ #โตโยต้าเมืองสีเขียว กันสักหน่อยดีกว่า ว่าสถานที่นี้คืออะไร แล้วมีความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง

โตโยต้า เมืองสีเขียว ก็คือสถานที่ที่ทาง บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย สร้างขึ้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งแรงในการช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยของเราให้กลายเป็นเมืองสีเขียว เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีและธรรมชาติที่ยั่งยืน

ซึ่งได้มีการบูรณะเรือนจำเก่า หน้าตลาดหัวรอ บนพื้นที่ 8 ไร่ ให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อม ในเรื่องของการเพิ่มพื้นที่สีเขียว, การจัดการขยะ, การอนุรักษ์น้ำ, การลดใช้พลังงาน-พลังงานทางเลือก และการเดินทางยั่งยืน ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ดีมากๆ อีกหนึ่งแห่งของไทย เพราะให้ความรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายและครบถ้วนในทุกด้านเลย

สามารถเข้าไปชมข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ที่นี่เลยครับบบ >> https://www.toyota.co.th/toyotagreentown/

ต่อไปเรามาเดินเที่ยวชมภายในโตโยต้า เมืองสีเขียวกันว่าภายในนี้จะมีอะไรที่น่าสนใจบ้าง สำหรับจุดแรกนี้เลยก็คือ ‘ศาลาทรงไทยอยุธยา’ ที่ถือเป็นสถาปัตยกรรมที่สะท้อนถึงภูมิปัญญาไทย ที่สร้างที่อยู่ให้สอดคล้องกับภูมิประเทศ และภูมิอากาศ มีใต้ถุนสูงป้องกันน้ำท่วม ส่วนตัวเรือนก็รับลมและระบายความร้อนได้ดี ซึ่งจุดนี้คือจุดศูนย์กลางของโตโยต้า เมืองสีเขียว ที่สามารถชมวิวได้รอบเลย

อาคารต่างๆ ภายในโตโยต้าเมืองสีเขียวนี้ก็ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และใช้พลังงานทางเลือกอีกด้วย เรียกว่าเป็น #อาคารพลังงานอัจฉริยะ ใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์

แม้แต่ห้องน้ำที่นี่ก็ยังถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อการลดใช้พลังงาน สังเกตจากรูปทรงที่ดูแปลกตา ไม่เหมือนห้องน้ำทั่วไป ผนังโค้งมน ช่วยให้สัมผัสกับแสงอาทิตย์น้อยลง ช่วยลดความร้อน นอกจากนี้ในส่วนของด้านบนก็เปิดให้แสงธรรมชาติลอดผ่าน ก็จะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าลงไปด้วย

ซึ่งในทริปนี้ เราก็มี ‘คุณกรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา’ นักแสดงชื่อดังมาร่วมเดินทาง และเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมไปกับเราด้วย

ตรงจุดนี้จะเป็นเหมือนป่าจำลอง ที่ด้านในก็จะมีเรื่องราวที่ทำให้เรารับรู้ถึงความสำคัญของต้นไม้

และจุดนี้ก็จะเป็นเรื่องของ ‘การอนุรักษ์น้ำ’ เพื่อการใช้น้ำอย่างประหยัดและคุ้มค่า โดยสร้างถังน้ำออกแบบเป็นไม้ยืนต้นรองรับน้ำฝน และพื้นรูพรุน ซึ่งสามารถ เก็บน้ำไว้รดน้ำต้นไม้ และใช้กิจกรรมต่างๆ ในสวนต่อไป

ต่อไปเราจะมาเรียนรู้เรื่อง #การเพิ่มพื้นที่สีเขียว ด้วยการปลูกป่านิเวศอย่างยั่งยืนกันครับ เพื่อเพิ่มเป็นการเพิ่มออกซิเจน และดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

คุณตุ้ย-เกียรติกมล ล่าทา นักร้องและนักแสดงชื่อดัง ก็มาร่วมปลูกป่านิเวศ เพิ่มพื้นที่สีเขียวกันด้วย ซึ่งเราก็จะใช้พันธุ์ไม้ท้องถิ่น เช่น ยางนา คูณ กันเกรา ตะเคียน พยูง ฯลฯ

ซึ่งเป็นเทคนิควิธีการปลูกป่าตามแนวคิด ของ ศ.ดร. อาคิระ มิยาวากิ ที่เลือกใช้พันธุ์ไม้พื้นเมืองที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม โดยปลูกพันธุ์ไม้หลายๆ ชนิดปะปนกันทั้งไม้ยืนต้นและไม้พุ่ม เป็นการเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตสูงถึง 2-3 เท่าของการปลูกแบบทั่วไปเลยนะครับบบบ

ภายในพื้นที่ของโตโยต้า เมืองสีเขียวนี้ ก็จะมี ‘วัดขมิ้น’ เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนต้น ถือเป็นโบราณสถานที่อยู่เคียงคู่กับพระราชวังจันทร์เกษมหรือวังหน้าที่ประทับของสมเด็จพระเนศวรมหาราช

หลังจากที่เราไปเดินชมได้รับความรู้ในเรื่องของต้นไม้ และน้ำกันมาแล้ว ต่อไปเราจะมาเรียนรู้เรื่อง #การจัดการขยะ กันบ้างครับ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ใกล้ตัวเรามากๆ ซึ่งที่นี่ก็จะมีการจัดการขยะอย่างครบวงจร ตั้งแต่การลด-แยก-และจัดการขยะ เพื่อการนำกลับมาใช้ใหม่ การรีไซเคิลและการลดขยะจากต้นทาง ลดการใช้ขยะพิษและส่งเสริมการใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

หลังคาที่เห็นอยู่นี้ รู้มั้ยว่าทำมาจากกล่องเครื่องดื่มนะครับเนี่ยยยย!!

ซึ่งจริงๆผมเองก็ไม่เคยคิดนะ ว่าพวกกล่องเครื่องดื่มที่เรามักจะดื่มกันเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นกล่องนม กล่องน้ำผลไม้ต่างๆ ดื่มเสร็จก็ไม่ใช่ว่าเป็นแค่ขยะไร้ค่า แต่เราสามารถนำมารีไซเคิลเป็นหลังคาก็ได้ด้วย ด้วยคุณสมบัติกล่องนมก็จะทำให้เราได้หลังคาที่ทนทาน ไม่ดูดซับแดดและความร้อน ช่วยประหยัดพลังงาน ปลอดจากเชื้อรา ถือเป็นการจัดการขยะที่ดีมากๆ อีกหนึ่งวิธี และน้ำขยะที่ไร้ค่ากลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์

ก่อนที่เราจะแยกย้ายไปทานอาหารกลางวันกัน ก็จะมีการ Workshop สนุกๆกันสักเล็กน้อย กับการลองนำของเหลือใช้ภายในบ้าน มาลอง D.I.Y. ทำเป็นของใช้ใหม่ง่ายๆที่ประดิษฐ์ได้ด้วยตัวเราเอง เช่น กระถางต้นไม้ หรือ พลั่วตักดิน

อุปกรณ์พร้อมแล้วววว เรามาลุยกันเลยครับ นี่ก็เป็นการนำสิ่งของเหลือใช้ อย่างขวดพลาสติก มาใช้ต่อให้เกิดประโยชน์ และช่วยลดขยะด้วย

หลังจากทำกิจกรรมกันเรียบร้อยแล้ว ต่อไปเราจะไปทานอาหารกลางวันกันด้วยรถรางแบบนี้เลยครับ ก็จะได้นั่งชมบรรยากาศเมืองอยุธยากันไปแบบเพลินๆ

เราก็มาเติมพลังกับอาหารอร่อยๆ กันที่ Busaba Cafe’ เป็นร้านสไตล์มินิมอลที่เป็นทั้งคาเฟ่ และร้านอาหาร ตั้งอยู่ตรงข้ามประตูเทคนิคอยุธยา ฝั่งถนนอู่ทอง บอกเลยว่าบรรยากาศภายในร้านเนี่ย ดีงามมาก มีความเรียบๆ คลีนๆ ถูกใจสุดๆ

หลังจากทานอาหารกลางวันกันเรียบร้อยแล้ว นี่เลยครับ สิ่งที่ผมรอคอยยยย 5555+

เจ้ารถไฟฟ้าคันจิ๋ว HA:MO (ฮาโม่) คันนี้ เรียกว่าจิ๋วแต่แจ๋ว เคยเห็นแต่รถหน้าตาล้ำๆแบบนี้ในหนัง และก็คิดว่ามันคือรถในโลกอนาคตแน่ๆ รถอะไรจะขับได้โดยที่ไม่ใช้น้ำมัน แต่วันนี้…ตอนนี้ มันอยู่จริงแล้วน๊าาาาา

ซึ่งพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ชาร์จให้กับรถ HA:MO ที่เมืองสีเขียวอยุธยานั้น ก็ได้มาจากการที่แผงหลังคาโซล่าเซลส์ในเมืองสีเขียวอยุธยารับพลังงานจากแสงอาทิตย์มาแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า และกักเก็บพลังงานไฟฟ้าเหล่านี้เอาไว้ภายในเซลส์แบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดที่ใช้แล้ว ที่ถูกนำมาใช้เป็นตัวเก็บพลังงานไฟฟ้าในเมืองสีเขียว

ซึ่งพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ภายในเมืองสีเขียวอยุธยาทั้งหมด รวมถึงที่ชาร์จไฟให้กับรถ HA:MO ก็มาจากแหล่งพลังงานนี้ แล้วผมเองก็จะได้มีโอกาสลองขับกันด้วย โดยเราจะขับไปเที่ยวตามจุดต่างๆในอยุธยากันครับ

มาครับ เรามาลองขับรถเที่ยวกันด้วย HA:MO คันจิ๋วคันนี้กัน ขับกันไปแบบชิลล์ๆ ความเร็วอยู่ที่ 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง เหมาะกับการขับเที่ยวรอบเมือง ซึ่งผมเองก็รู้สึกนะ ว่าถ้าในอนาคตโลกเราเปลี่ยนมาใช้รถแบบนี้กัน ปัญหาเรื่องมลพิษทางอากาศก็คงจะดีขึ้น ประหยัดน้ำมัน แล้วก็หมดปัญหาเรื่องการหาที่จอดรถไปเลย คันเล็กจอดสะดวกมาก

กระทัดรัด ดูน่ารักไม่เบาเลยใช่มั้ยครับบบบ..

ซึ่งเราก็จะขับรถไฟฟ้า HA:MO ไปแวะเที่ยวกันที่ ‘อุทยานประวัติศาสต์’ และ ‘วัดไชยวัฒนาราม’ ที่เป็นโบราณสถานที่สำคัญของอยุธยากัน

ภายในก็เต็มไปเรื่องราว และร่องรอยทางประวัติศาสตร์

เป็นจุดเรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ไทย ที่ก็จะมีน้องๆ นักเรียน มาทัศนศึกษากันอยู่เสมอ

แล้วเราก็จะไปแวะวัดสำคัญของอยุธยากันอีกหนึ่งแห่ง คือ ‘วัดพุทไธศวรรย์’ สำหรับใครที่ได้ดูละครดังอย่าง ‘บุพเพสันนิวาส’ ก็จะเห็นว่าที่นี่เป็นสถานที่ฝึกดาบฝึกอาคมของลูกศิษย์อาจารย์ชีปะขาวนั่นเองครับ

และจุดสุดท้ายที่เราจะแวะไป ก่อนปิดทริปกันในวันนี้ก็คือที่ ‘หมู่บ้านญี่ปุ่น’ ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะเรียน ห่างจากวัดพนัญเชิงไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในอยุธยาในอดีต จำลองภาพชีวิต สังคม และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นมาให้เราได้ชมกัน

ซึ่งภายในก็จะแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 9 ส่วนด้วยกันครับ คือ…

+ ห้องวีดีทัศน์
+ แผนที่เดินเรือมายังกรุงศรีอยุธยา
+ แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศ
+ ห้องจัดแสดงใต้ท้องเรือ
+ ห้องจัดแสดงเรื่องราวของชุมชนชาวต่างชาติในกรุงศรีอยุธยา
+ ห้องจัดแสดงเรื่องราวของชุมชนชาวญี่ปุ่นในพระนครศรีอยุธยา
+ ลำดับเหตุการณ์ความสัมพันธ์ไทย – ญี่ปุ่น
+ ห้อง E-Book
+ เรือโบราณจำลอง

ที่นี่ก็ยังมีหุ่นขี้ผึ้งของ ‘ท้าวทองกีบม้า’ ซึ่งเป็นชาวอยุธยาลูกครึ่งเชื้อสายโปรตุเกส-ญี่ปุ่น ผู้คิดค้นขนมไทยที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดี รวมไปถึงข้าวของเครื่องใช้โบราณ หาชมยากก็มี

ชุดซามูไรของจริงก็มีให้ได้ชมนะครับเนี่ย สวยงามมากๆ

นอกจากนี้ก็ยังมีสวนและศาลาญี่ปุ่นโดยรอบ ที่สวยงามร่มรื่น เหมาะกับการมาเดินเล่นผ่อนคลายไปกับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติได้เป็นอย่างดี

ปิดทริปเที่ยวอยุธยาแบบใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันไปแบบมีความสุข ได้ทั้งความรู้ ความสุข และความสนุกสนานไปพร้อมกัน และก็คงจะต้องนำเรื่องราวดีๆ ที่ได้ในวันนี้ ไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพราะพวกเราเองก็สามารถเป็นมือเล็กๆ อีกหนึ่งมือ ที่จะช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อมให้ยั่งยืน และกลายเป็นเมืองสีเขียวได้ในอนาคตครับ…

#ToyotaGreenTown #โตโยต้าเมืองสีเขียว
#LowCarbonTrip #คนหลงทาง


  •