ค น ห ล ง ท า ง

Laos Diary…บันทึกเรื่อง ‘ล า ว’ เที่ยวลาวสั้นๆ 4 วัน 3 คืน : หลวงพระบาง – หนองเขียว

  •  

เดือนธันวาคม…เดือนสุดท้ายแห่งปี
ผมว่าน่าจะเป็นเดือนแห่งการเดินทางของใคร
หลายๆคนเลยก็ว่าได้ เพราะช่วงปลายปีแบบนี้
จะมีทั้งวันหยุดยาวและวันหยุดเทศกาลให้เรา
ได้มีเวลาไปเติมเต็มประสบการณ์ใหม่ๆ
จากการเดินทางกันให้เต็มอิ่ม&hellip
.
.
.
ทริปประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างประเทศ &lsquoล า ว&rsquo
ก็ถือเป็นอีกหนึ่งทริปที่เหมาะกับการมาสร้าง
ความทรงจำและบันทึกเรื่อง &lsquoล า ว&rsquo ของเราได้
เป็นอย่างดี ซึ่งจุดหมายปลายทางของผมก็คือ
การมาตะลุยอยู่ใน 2 เมืองแห่งลาวเหนือ
กับการเดินทาง 4 วัน 3 คืน ของผมใน
&lsquoหลวงพระบาง-หนองเขียว&rsquo ที่แสนสงบ อบอุ่น
และก็มีธรรมชาติสวยๆ ที่รอให้เราไปเห็นด้วยสองตา…

สำหรับการเดินทางจากกรุงเทพฯไปนั้น ผมก็นั่งเครื่องไปลงที่หลวงพระบางหลังจากนั้นก็เรียกเหมารถแท็กซี่จากสนามบินไปลงที่พักในตัวเมืองกันครับ ระยะทางจากสนามบินไปก็ประมาณ 5-6 กิโล ค่ารถประมาณ 200 บาท

เที่ยวลาวเนี่ยเที่ยวง่ายมากๆครับ มาถึงจะทำอะไรเราก็สื่อสารภาษาไทยได้เลย คนลาวพูดอะไรมาเราก็ฟังเข้าใจ เราพูดไทยไปเค้าก็เข้าใจเช่นกัน สำหรับใครที่เป็นมือใหม่หัด Backpack อยากลองเริ่มต้นลุยต่างประเทศ ก็ลองเริ่มจากการเที่ยวลาวดูก็ได้ครับเที่ยวสบายๆ

สำหรับที่พักในหลวงพระบางที่ผมจองไว้ ก็คือที่นี่เลยครับ ‘วิลล่า จำปา’ ราคาห้องพักคืนละ 800 บาท ซึ่งที่พักนี้ก็จะอยู่ใกล้ๆกับแม่น้ำโขงเลยครับ ไปเดินชมบรรยากาศริมน้ำได้

ก่อนที่จะเดินทางกันต่อในหลวงพระบาง เดินทางมาไกลก็ต้องมีเหนื่อยล้ากันบ้าง ก็ต้องขอลองเครื่องดื่มใหม่จาก Carabao อย่าง Carabao Green Apple ที่ช่วยให้รู้สึกสดชื่น แถมยังอร่อย ดื่มง่ายด้วยรสแอปเปิ้ลเขียว

เครื่องดื่ม Carabao Green Apple ใหม่ที่มาพร้อมกระป๋องที่ดีไซน์ดูทันสมัย เหมาะกับคนรุ่นใหม่อย่างเราๆ ที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวและต้องมีกิจกรรม Outdoor อยู่เสมอๆ

หาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไป และ 7-11 ทุกสาขา ราคา 15 บาท ขนาด 180 ml. ขนาดกระป๋องพกพาง่าย นี่ผมก็ติดกระเป๋ามาจากไทย เอาไว้ดื่มเติมความสดชื่นได้ทุกเวลา

มาหลวงพระบางทั้งที ถ้าจะไม่มาที่ ‘วัดพระธาตุพูสี’ นี่ก็คงจะเหมือนมาไม่ถึง เพราะนอกจากเราจะได้ขึ้นไปกราบนมัสการพระธาตุพูสีแล้ว ที่บนยอดเขาแห่งนี้ก็ยังเป็นจุดชมวิวที่มองเห็นเมืองหลวงพระบางได้ทั้งเมือง

ด้วยความที่วัดพระธาตุพูสีนี้ จะค่อนข้างเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ในช่วงพระอาทิตย์ตกแบบนี้นักท่องเที่ยวก็จะหลั่งไหลเข้ามารอชมความสวยงามกันเต็มเลยครับ…

บรรยากาศดีมากๆเลยใช่มั้ยครับ มานั่งชมวิวเมืองหลวงพระบางที่รับกับแสงอาทิตย์ในยามตะวันตกดินคือดีมากจริงๆ

เมื่อพระอาทิตย์ลับตาเราก็ลงมาเดินเล่นกันที่ถนนคนเดินของหลวงพระบางที่ชาวบ้านจะเรียกกันว่า ‘ตลาดมืด’ ซึ่งก็จะมีของหลากหลายอารมณ์คล้ายถนนคนเดินที่บ้านเราเลยครับ

ค่ำแล้วเราไปเดินเล่นรอบๆ ชมบรรยากาศหลวงพระบางในยามค่ำคืนกันครับ

วัดวาอารามที่นี่ก็มีศิลปะที่สวยงามมากๆ

สำหรับเช้าวันที่ 2 นี้ ก่อนที่เราจะเดินทางต่อไปที่หนองเขียว ผมก็ขอมาเดินเล่นชมบรรยากาศเมืองหลวงพระบางในยามเช้ากันหน่อย จริงๆแล้วที่นี่จะมีการตักบาตรข้าวเหนียวยามเช้าด้วย แต่สงสัยจะหลับเพลิน ไปหน่อยครับเลยไม่ทันได้มาตักบาตร ก็เลยเน้นเดินเล่นลัดเลาะไปตามซอกซอยต่างๆ แทน 55555+

เอาละครับ ได้เวลาที่เราจะต้องเดินทางต่อไปยังหนองเขียวกันแล้ว ซึ่งผมก็ได้ทำการติดต่อเช่ารถเอาไว้ล่วงหน้า ค่าเช่ารถจะอยู่ที่ประมาณวันละ 1500 บาทนะครับ (ราคาขึ้นอยู่กับประเภทรถ) เช่ารถขับเองก็จะสะดวกในเรื่องของแวะเที่ยวตามจุดต่างๆ และเราก็สามารถ Control เวลาในการเดินทางได้เองด้วย

ก่อนที่เราจะขับรถไปเยือนหนองเขียวกันนั้น ก็มาทำให้ร่างกายเรา Fresh ให้เต็มที่ด้วย Carabao Green Apple จะได้รู้สึกกระปรี้กระเปร่ากันในยามเช้า

จากหลวงพระบางมาหนองเขียวเราก็ขับรถกันมาประมาณ 4 ชั่วโมงได้ครับ เมื่อมาถึงที่หนองเขียวแล้วเราก็ไปหาที่พักกันก่อนเลย ก็ไปเจอที่พักนี้อยู่ที่ริมแม่น้ำอู เห็นแล้วบรรยากาศดูดีทีเดียว ก็เลยแวะเข้าไปสอบถามราคา ก็ไม่แพงเลยตีเป็นเงินไทยก็คืนละแค่ 500 บาท เราก็ปักหลักเที่ยวหนองเขียวกันที่พักนี้เลย

ด้วยความที่หนองเขียวนั้นเป็นเพียงเมืองที่ยังคงอะไรเดิมๆ วิถีชีวิตชาวบ้าน และรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ ทำให้บรรยากาศเมืองดูสงบน่าอยู่เสียจริง

เรามาเดินเล่นสำรวจเมืองหนองเขียวไปรอบๆกันครับว่าจะฟีลกู๊ดดดดแค่ไหน 🙂

แสงกำลังสวยก็ขอแวะถ่ายรูปคู่กับวิวสะพานสักหน่อย บรรยากาศดีมากๆ

หลังจากนั้นเราก็เข้าไปเดินลัดเลาะอยู่ในตัวเมืองหนองเขียว หาอาหารทานกัน เดินไปเดินมาก็จะเห็นมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวกันพอสมควร

มีเป็นร้านให้บริการทัวร์ต่างๆนะครับ ใครที่สนใจอยากจะไปที่ไหนเป็นพิเศษหรืออยากจะทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์เพิ่มเติม ก็มาดูกันได้ ส่วนของผมพรุ่งนี้เราจะขึ้นไปชมทะเลหมอกกันที่จุดชมวิวผาแดง ซึ่งสามารถมองเห็นวิวได้รอบทิศทางแบบ 360 องศาเลย ว่าแล้วคืนนี้เราก็รีบไปเข้านอนเก็บแรงกันไว้ดีกว่า เพราะพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นตั้งแต่เช้าาาา และเดินขึ้นเขาอีกประมาณ 2 ชั่วโมงก็ต้องฟิตร่างกายกันหน่อย

เช้านี้เราตื่นกันตั้งแต่ตี 4 เลยครับ เพื่อมาเดินเขาขึ้นไปจุดชมวิวผาแดง ซึ่งที่นี่เราสามารถขึ้นมาเองได้โดยไม่ต้องจ้างคนนำทางหรือมีเจ้าหน้าที่ติดตามอะไรเลย เดินขึ้นไปตามทางเรื่อยๆด้วยตัวเองได้เลยครับ ที่ต้องรีบมาแต่เช้าเพราะเราจะได้ทันมาชมพระอาทิตย์ขึ้นกันด้วย

เดินขึ้นเขาเรียกเหงื่อกันมาได้สักพักใหญ่ เราก็มาถึงที่จุดชมวิวกันแล้ววววว โอ้วววว คือพี่หมอกมารอเราอยู่เต็มเลย เห็นแบบนี้ก็ยิ้มเลยครับ คือไม่มีแห้วแน่นอนนนน 5555+

พอฟ้าเริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ หมอกก็เริ่มมากันเยอะเลย วิวดี บรรยากาศดีแบบนี้ ดื่ม Carabao Green Apple เติมพลังหลังจากเดินเขาขึ้นมากันเหนื่อยๆสักหน่อย

หลังจากที่เราเก็บภาพบรรยากาศกันอย่างจุใจแล้ว เราก็เดินลงมาจากเขาเพื่อกลับมาพักผ่อนในที่พัก และวันสุดท้ายก็เดินทางกลับสู่หลวงพระบางเพื่อมุ่งหน้ากลับไทยกัน เป็นยังไงกันบ้างครับกับทริปเที่ยวลาวแบบสั้นๆ ที่เที่ยวตามได้ง่ายๆ ลองลิสต์ไว้เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางในใจไว้ไปเที่ยวช่วงวันหยุดปลายปีนี้กันนะครับ.

#คนหลงทาง#เที่ยวลาว#เที่ยวหลวงพระบาง#หลวงพระบางหนองเขียว#คาราบาวกรีนแอปเปิ้ล#CarabaoGreenApple


  •