ค น ห ล ง ท า ง

Explore Narathiwat ผาสน ทะเลหมอกร้อยเกาะแห่งฮาลา-บาลา

  •  


ถ้าพูดถึงการเดินทางไป 3 จังหวัดชายแดนใต้อย่าง ยะลา ปัตตานี และนราธิวาสแล้ว แน่นอนครับ…ใครๆ ก็ต้องเป็นกังวลถึงความปลอดภัย และความเสี่ยงจากข่าวสารที่เราได้รับรู้มา ซึ่งลึกๆ แล้วผมเองก็คิดนะ ว่าแท้จริงแล้ว สิ่งเหล่านี้ที่ข่าวสารมันสร้างจินตนาการเราให้คิดไปต่างๆ นานาๆ นั้น สถานที่จริงเป็นอย่างไร ?…เป็นอย่างที่เราคิดไว้มั้ยนะ

ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้ว ที่ผมเดินทางมาเที่ยวที่จ. ยะลา โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ #เบตง การมาเยือนหนึ่งใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ในครั้งนั้น ได้เปลี่ยนมุมมองที่ผมมีกับจังหวัดเหล่านี้ไปอย่างสิ้นเชิง

คนที่นี่ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ และสถานการณ์จริงไม่ได้น่ากลัวเท่าจินตนาการที่เราคิดเลย และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ผมอยากหาโอกาสเดินทางมาละแวกนี้อีกครั้ง โดยเปลี่ยนจุดหมายใหม่เป็นที่ #อำเภอสุคิรินจ.นราธิวาส นั้นเอง เพราะที่อำเภอเล็กๆ แห่งนี้ ซ่อนความ Unseen ที่คาดไม่ถึงไว้ ใครจะคิดครับว่าที่นราธิวาสจะมีทะเลหมอกที่ยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้ คือไม่ใช่ว่าความสวยงามแบบนี้จะมีแต่ที่ภาคเหนือเท่านั้น อยากให้ลองมาสัมผัส และมาลองเดินสองเ้ท้าท้าความชันขึ้นไปยัง #ผาสน ที่เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทย ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา กับระยะทางการเดินเพียงแค่ 2 กม. แต่เส้นทางนั้นชันถึงชันมากตลอดทาง แทบไม่มีจุดให้ได้พัก #ขึ้นไม่ยาก #เดินไม่มาก แต่ว่าโคตรเหนื่อยนะนี่พูดเลย 5555+

ขนาดผมเเละเพื่อนๆ ที่มาด้วยกัน เดินป่ากันมานักต่อนักแล้ว ยังรู้สึกเลยว่า เหนื่อยจริงอะไรจริง และทางชันมว๊ากกก ไม่รู้จะตั้งตรงแน่วไปไหน ชันที่สุดกว่าทริปอื่นๆ ถึงระยะทางจะแค่ 2 กม. ซึ่งใช้เวลาในการเดินนานพอกันกับที่อื่นในระยะทาง 4-5 กิโลเลย แต่รับรองครับว่าขึ้นมาแล้ว เจอความสวยงามของทะเลหมอกแล้ว ยังไงก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง…

—–
ติดต่อการเดินทางสู่ ผาสน อ.สุคิริน : พี่หรั่ง คนนำทาง 093-7250969 และกำนัน 082-8251304

การเดินทางของผมครั้งนี้ ก่อนมาก็จะมีการติดต่อกับทางเจ้าหน้าที่ไว้ล่วงหน้าก่อน นัดแนะวันเวลาล่วงหน้าไว้ให้เรียบร้อย ด้วยความที่จ.นราธิวาส จะเป็นเขตที่ต้องมีการดูแลรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษ การเข้าออกของคนต่างถิ่นอย่างเราก็ควรที่จะต้องมีติดต่อกับทางพี่กำนันให้ทราบไว้หน่อยก็จะดีเลยครับ และทางพี่กำนันจะได้ประสานงานกับพี่ๆ ที่เป็นเจ้าหน้าที่ / คนนำทาง / ลูกหาบไว้ให้เรา

มาถึงแล้วก็เตรียมตัวออกเดินทางกันเลยครับ…

#ผาสน ตั้งอยู่ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ฮาลา-บาลา หรือที่เรียกสั้นๆว่า ป่าฮาลา-บาลานั้น เป็นอะไรที่อุดมสมบูรณ์และร่มรื่นมากครับ

เป็นจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหนึ่งจุด และเหมาะมากสำหรับคนที่ชอบเที่ยวแบบลุยๆ ได้ผจญภัยหน่อย เป็นที่ปราบเซียนเรื่องความชันอีกหนึ่งแห่งที่ผมเองก็ไม่ทันได้คาดไว้ ก่อนมาคือรู้แค่ว่าจะไปดูทะเลหมอกที่ผาสน แต่ไม่ทันคิดเรื่องเส้นทาง เพราะคิดว่าเดินไม่ไกล ไม่น่าจะหนักหน่วงมาก แค่ 2 กิโลเอง แต่โอ้โหวววว พอมาถึงแล้วคือผิดคาด 5555+

เป็น 2 กิโลที่ต้องทำใจดีๆ เข้าไว้ เพราะชันมากกกก ชันจริงๆครับ ทางมีแต่จะตั้งตรงขึ้นเรื่อยๆ…เรื่อย เรียกว่าไม่ที่ราบกันเลยยยย

ทางชันขนาดนี้แน่นอครับว่า ต้องปวดขามากแน่ๆ ว่าแล้วก็คว้าตัวช่วยดีๆ ที่เป็นยาสามัญประจำทริป อย่างยูนิเรน สเปรย์ออกมา ช่วยบรรเทาอาการกันหน่อย ขวดเล็กพกง่าย ฉีดปรื๊ดๆ คือง่ายมากกกก ใช้งานสะดวกจริงๆ

ปวดตรงไหน ฉีดตรงนั้น รับรองครับ ไม่กี่อึดใจ อาการจะทุเลาลง เดินทางชันแค่ไหนก็ไหวอยู่แล้ววว

ตลอดระยะทางที่เดินไป เราก็ต้องเดินลุยน้ำ ลุยอะไรไปสาระพัด

ว่าแล้วเราก็ยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เป็น 2 กิโลที่ไม่รู้ว่าจะถึงเมื่อไหร่ เหนื่อยหอบเป็นพักๆ 5555+

ที่ป่าฮาลา-บาลานี้ ด้วยความที่น้ำที่นี่จะเป็นต้นน้ำจากป่าที่แท้จริง น้ำจึงใสมากกกกก สะอาดมากกก เห็นแล้วแทบอยากพุ่งตัวลงไปเล่น ให้ร่างกายมันสดชื่นจริงๆ

มารอบนี้อาจจะใส่รองเท้ามาผิดคู่ไปหน่อย เนื่องจากไม่ได้คาดการณ์ไว้ว่าการ

มา #ผาสน จะผจญภัยขนาดนี้ โอ้วววว ย่ำน้ำไปเต็มที่ หลังจากนี้รองเท้าจะเป็นไงไม่ต้องสืบ อุ้มน้ำ ชื้นนนน แห้งช้า สบายละ 5555+

พี่ผมคนนี้ เรื่องปากพาลหาเรื่องกวนตีนต้องยกให้ เมื่อโฆษณาตัวนึงได้กล่าวไว้ว่า ‘ใช้ชีวิต ให้สมกับที่มีชีวิต’ แหมประโยคนี้ได้ยินแล้วมันขึ้นนนน ก็ต้องออกไปใช้ชีวิตให้เต็มที่

เกิดมาทั้งทีชีวิตนึง ก็ต้องแสวงหาประสบการณ์กันหน่อยสิครับบบ แต่พี่ผมมันบอก ‘นี่พวกมึงใช้ชีวิต เหมือนไม่อยากมีชีวิต’ คือไปแต่ละที่ แต่ละกิจกรรม สุดแสนจะบรรยาย งานสาหัสสากรรจ์เนี่ยชอบนักกกก 5555+

เอาครับ หลังจากที่เราฝ่าฝันความชันขึ้นมาจนถึงบนยอดนี้ได้แล้ว ก็ใช้เวลาร่วมๆ 3 ชม.กว่าได้ เหนื่อยมว๊ากกกก แต่พอขึ้นมา เราก็มาวางข้าวของ เตรียมตั้งแคมป์กันตรงที่เป็นจุดกางเต๊นท์นะครับ สวนตรงผาสนเลยนั้น ต้องเดินไปอีก 500 เมตร ซึ่งจุดนั้นจะไม่อนุญาติให้ขึ้นไปนอนหรือทำกิจกรรมแคมป์ปิ้งใดๆ เพราะตรงนั้นส่วนใหญ่จะมีใบไม้ใบหญ้าที่ติดไฟได้ง่ายมาก พักตรงนี้ปลอดภัย สบายใจกว่าครับ

ส่วนความเป็นอยู่ของเราก็ง่ายๆ เลยครับ เปล 1 ตัว กับหมอน 1 ใบ ขึงไว้กับไม้ แล้วเอาผ้าใบมาคลุมหน่อย เป็นเตียงนอนแบบง่ายๆ แต่อาจจะดิ้นไม่ได้นะครับ ไม่งั้นงานนี้นอนๆ อยู่เพื่อนได้ยินเสียงดัง ตุ๊บ! ก็ไม่ใช่ว่าเสียงเจ้าป่าเจ้าเขาที่ไหนมาทำอะไร เเต่เพื่อนที่นอนข้างๆนี่แหละ แม่มร่วงลงมา 5555+

เดินขึ้นมาเสร็จแล้ว จัดเตรียมอาหารที่นอนกันเสร็จ ก็อาจจะมีอาการปวดๆ ตึงๆ ที่ขา คว้ายูนิเรน สเปรย์ออกมาฉีดตรงบริเวณที่ปวด เพราะช่วยเรื่องปวดกล้ามเนื้อได้ดี ฉีดๆให้รู้สึกผ่อนคลาย ก่อนจะนอนพักผ่อนในเปลให้สบายใจ

ในคืนนี้มีดาวเป็นล้านดวง~

แหม…เห็นบรรยากาศแบบนี้ ก็อดนึกถึงเพลงนี้ขึ้นมาไม่ได้ ค่ำคืนนี้เรามีดาวคอยนอนเป็นเพื่อนเราเยอะมากกก แถมยังมีทางช้างเผือกขึ้นอีก

ด้วยความที่ก่อนหน้าที่เราจะออกมาถ่ายดาวกัน คือทุกคนก็พร้อมใจจะออกไปเดินเล่นกัน ส่วนพี่ผมผู้ที่นำคำจากโฆษณามาล้อใส่ผม มันก็บอกว่า #ขอรออยู่ที่เปลแล้วกัน ท่าทางคงจะเหนื่อยเลยขี้เกียจ ผมก็ไม่ขัดศรัทธา สุดท้ายแล้วกลายเป็นว่า ทุกคนออกมาเดินถ่ายดาวกันหมด #เหลือไว้แต่เพียงพี่ผมคนนั้นเพียงผู้เดียวท่ามกลางความมืด

พอทุกคนกลับมา มันว่านั่งๆไปได้สักพัก เริ่มวังเวงโหว่งเหวง แต่ถ้าจะให้เดินตามไปคนเดียวก็ไม่กล้าอีก ก็เลยต้อง #ก้มหน้านั่งรับกรรมอยู่กับความลำพังในความมืดต่อไป หัวเราะเยาะเท่าไหร่ถึงจะพอ ชวนให้ไปด้วยกันไม่ไปแต่แรก 5555+

หลับกันไปอย่างสนิทตลอดคืนจากความเหนื่อยล้า เช้ามาเราก็รีบตื่นแล้วเดินไปตรงจุดชมทะเลหมอกผาสน ที่เดินไปอีก 500 เมตรจากจุดที่เรานอน ก็พบกับทะเลหมอกที่ลอยฟ่องตรงหน้า ช่างเป็นเช้าที่มีความสุขมากๆอีกหนึ่งวัน รอบๆมีแต่ธรรมชาติ ทะเลหมอก และเสียงนกร้อง

ที่มาที่ไปแห่งฉายา #ทะเลหมอกร้อยเกาะ ก็เพราะปกติแล้ว ด้านล่างนี่เวลาที่ไม่มีหมอก คือจะมีภูเขาลูกเล็กลูกน้อยเยอะมากๆครับ เห็นเป็นร้อยลูก เลยเปรียบเหมือนเป็นเกาะ เวลาทะเลหมอกมา เราก็จะเห็นเป็นเกาะๆ ท่ามกลางทะเลหมอกนุ่มๆ สีขาว

ความสวยงามแบบนี้ ต้องลองพาตัวพาใจมาสัมผัสดูนะครับ ไม่จำเป็นต้องไปดูทะเลหมอกสวยๆ แต่ที่ภาคเหนือเท่านั้น ภาคใต้ของเราก็งามไม่แพ้ใครเลย

พระอาทิตย์เริ่มขึ้นมาเรื่อยๆแล้ว เช้าวันใหม่ของเรา เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังเเล้ว

เหมือนสวรรค์เลยมั้ยละครับ บรรยากาศชวนฝันมากกกก

ได้เวลาที่เราต้องเดินกลับไปยังจุดตั้งแคมป์ของเราเพื่อเตรียมกินข้าวเช้า และตัวกลับกันแล้ว

เช้านี้เราก็ทำอาหารกินกันแบบง่ายๆ รองท้องกัน โดยมีพี่ๆ คนนำทางช่วยดูแลเรื่องอาหารให้เราด้วย เจ้าหน้าที่น่ารักกันทุกคนครับ อบอุ่น ดูแลเราดีมากๆ ประทับใจมากกก

บรรยากาศแบบนี้ คือเป็นอะไรที่ผมชอบมาก มันได้เห็นภาพของการใช้ชีวิตอีกแบบนึงท่ามกลางป่าเขา

หลังจากทำอะไรกันจนเรียบร้อยแล้วเราก็มาเตรียมตัวเดินลงเขา เก็บข้าวของอะไรกันครับ

ส่วนนี่ก็เห็นอย่างงี้ คือไม่ต้องสงสัยว่ากำลังทำอะไร มันคือการอาบน้ำบนเปลนี่แหละ 5555+ เช็ดหน้าเช็ดตา ทำอะไรอยู่บนนี้ มาที่นี่อาจจะไม่มีห้องน้ำห้องท่าอะไรให้เราใช้ ทุกคนก็ต้องมีวิธีในแบบของใครของมันกันนะครับ

จบการเดินทางมาที่ #ผาสน ทะเลหมอกร้อยเกาะแห่งฮาลา-บาลา กันแล้ว เป็นทริปสั้นๆ ที่สนุกสุดๆ เหนื่อยสุดๆ แต่ก็ประทับใจ และได้มิตรภาพที่ดีมากๆ จากพี่ๆ ชาวนราธิวาสกลับไป ซึ่งผมเชื่อว่าเมื่อผมกลับไป ผมจะยังคงต้องคิดถึง จ.นราธิวาส อยู่เสมอๆ เป็นการเดินทางที่เปลี่ยนมุมมองนราธิวาสในสายตาเราไปใหม่ ทำให้เห็นภาพอะไรๆ ที่ไม่เคยคาดไว้ว่า ที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้จะมี แล้วคุณจะหลงเสน่ห์จังหวัดนี้เหมือนกับผมแน่นอน 🙂

#ยูนิเรนสเปรย์ #UnirenSpray #พกง่ายคลายปวด #คนหลงทาง#LostInNarathiwat2017


  •