ค น ห ล ง ท า ง

The Story of OKAYAMA ‘โอคายาม่า’ กินเที่ยวสุขใจ ในเมืองแห่งวัฒนธรรม

  •  

ในวันที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี…
‘ญี่ปุ่น’ คืออีกหนึ่งจุดหมายปลายทาง
ที่หลายๆคนใฝ่ฝันอยากจะไปเยือน
.
.
‘OKAYAMA’ เป็นเมืองน่ารักๆ อีกหนึ่งแห่งของญี่ปุ่น
ที่ถูกเรียกว่าเป็น ‘ดินแดนแห่งแสงอาทิตย์’
เพราะด้วยอากาศที่อบอุ่น และฝนตกน้อยตลอดทั้งปี
ด้วยความที่เมืองนี้อาจจะยังไม่ได้เป็นเมืองท่องเที่ยวหลัก
บรรยากาศจึงเต็มไปด้วยความสงบ และเที่ยวได้
อย่างสนุกและเป็นส่วนตัวมากๆ มีวิวธรรมชาติที่สวยครบ
และเต็มไปด้วยวัฒนธรรม และเรื่องราวของเมืองแห่ง
ตำนานโมโมทาโร่ รวมทั้งความเป็นญี่ปุ่นในทุกๆซอกมุม
ซึ่งผมการันตีเลยว่า ถ้ามาเยือนแล้วจะต้องหลงรักที่นี่แน่ๆ
.
.
ลองเปลี่ยนแพลนการเที่ยวญี่ปุ่นในเส้นทางสุดฮิต
มาเป็นเที่ยวเมืองน่ารักๆ อย่าง OKAYAMA
และเมืองใกล้เคียงอย่างเมืองโกเบ และเมืองอื่นๆดูบ้างครับ
รับรองว่าจะต้องเป็นทริปที่ประทับใจ ได้รูปกลับไปเพียบ!!
โดยเฉพาะสาวๆที่ชอบความหวานฉ่ำของทุ่งดอกไม้
และความมุ้งมิ้งของสาวกคิตตี้นี่ยิ่งต้องมาเลย
หรือจะไปล่องเรือชมความสวยงามในยามพระอาทิตย์ตก
นอนพักในโรงแรมวิวสวยสุดสายตาก็ดีงามไม่เบา
และจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ต้องห้ามพลาด
พร้อมแล้วผมว่าเรามาออกเดินทางกันเลยดีกว่าครับ

01 : ‘โรงกลั่นสาเกฮาคุซึรุ’

——

ก่อนที่เราจะเข้าไปเยือนที่เมือง Okayama กันนั้น ก่อนอื่นก็ขอแวะเที่ยวที่เมืองโกเบกันก่อน กับสถานที่แรกของทริปอย่าง ‘โรงกลั่นสาเกฮาคุซึรุ’ เป็นโรงกลั่นสาเกเก่าแก่

ที่ต่อมากลายเป็นพิพิธภัณฑ์สาเก เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมประวัติความเป็นมา ชมขั้นตอนการผลิตสาเก และได้เห็นอุปกรณ์ต่างที่ใช้ผลิตสาเกที่ทำจากไม้ โดยจะมีหุ่นขี้ผึ้งจำลองอยู่ในทุกๆขั้นตอนการทำ เหมือนกับได้เห็นการผลิตสาเกแบบย้อนยุคอย่างใกล้ชิด

02 : ร้าน Kobe Plaisir

——

มาเยือนโกเบ ก็ต้องกินเนื้อโกเบ ไม่งั้นเหมือนมาไม่ถึง
ร้านเน้อโกเบ รสเลิศ ‘Kobe Plaisir’ ตั้งอยู่ในย่านช้อปปิ้งสุดฮิต “Sannomiya”

ทุกเมนูเลือกใช้วัตถุดิบสดใหม่คัดสรรมาอย่างดีจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในคุณภาพ

บรรยากาศย่านช้อปปิ้งสุดฮิต “Sannomiya”

03 : ศาลเจ้าอิคุตะ

——

ก่อนเดินทางไปเที่ยวชมท่าเรือโกเบ แวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลเจ้าอิคุตะ (Ikuta) หนึ่งในศาลเจ้าเก่าแกที่สุดในญี่ปุ่นที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 1800 ปี ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ด้านความรัก ได้ยินแบบนี้แล้วใครอยากมีคู่รับปีใหม่ต้องรีบมาเลย 5555+

04 : Kobe Haborland

——

ตกเย็นเราก็ไปเดินเล่นที่โกเบฮาร์เบอร์แลนด์ Kobe Haborland ตั้งอยู่ฝั่งตะวันตกใจกลางเมืองโกเบ เป็นแหล่งรวมความบันเทิงมากมาย เช่งห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงหนัง สวนสนุก และเป็นจุดเทียบท่าเรือ เหมาะกับการเดินเล่นรับลมทะเล ชมวิวในยามค่ำคืน

05 : Maiko Marine Promenade

——

จุดชมวิวบนฝั่งโกเบ ที่เป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก ชมวิวเกาะอาวาจิและอ่าวโอซาก้าได้อย่างสวยงาม เปิดช่วงเวลา 9:00 – 18:00 น.

📌ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ >> วันหยุด / ส-อา 300 เยน, วันธรรมดา 250 เยน
ผู้สูงอายุ (70 ปีขึ้นไป) >> วันหยุด / ส-อา 150 เยน, วันธรรมดา100 เยน
อายุน้อยกว่า ม.ปลาย >> เข้าฟรี

06 : Hello Kitty Show Box

——

เป็นร้านอาหารโรงละครสำหรับแฟน Hello Kitty ตัวจริงต้องไม่พลาด เรียกว่าสะดุดตาตั้งแต่ตัวอาคารและทางเข้าแล้วครับ นอกจากจะได้เพลิดเพลินกับแกลเลอรี่ การแสดงต่างๆมากมาย และศิลปะที่เกี่ยวกับ Hello Kitty แล้วยังได้อิ่มอร่อยกับเมนูอาหารเพื่อสุขภาพจากผักออร์แกนิค หรือจะมาซื้อของที่ระลึก ของสะสมติดไม้ติดมือกลับไป

เวลาทำการ: 11.00-20.00 น. (หยุดทุกวันพุธ)

07 : ทุ่งดอกไม้ Awaji Hanasajiki

——

ตั้งอยู่ที่เกาะอะวะจิ (Awaji) ในจังหวัดเฮียวโงะ ที่มีดอกคอสมอสสีชมพูบานสะพรั่งไปรอบตัวเราแบบ 360 องศา สามารถมองเห็นทะเลสุดลูกหูลูกตา มีดอกไม้บานสะพรั่งทั้งเกาะตลอดทั้งปี สามารถขี่ม้าออกไปชมความงดงามรอบเกาะได้

08 : The Westin Awaji Island Resort

——

สำหรับที่พักที่เราจะพักกันในวันนี้ และบอกเลยว่าเป็นโรงแรมที่อยากแนะนำ เพราะเรื่องวิวนั้น 10 เต็มไปเลย อยู่ห่างจากเมืองโกเบ (ขับรถประมาณ 30 นาที) ทุกห้องพักมีระเบียงที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ของท้องทะเลได้อย่างสวยงาม เป็นโรงแรมที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุด

โรงแรมที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยที่สุด

09 : ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle)

——

สถานที่ที่ได้รับเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่น ‘ปราสาทฮิเมจิ’ หรือมีชื่อเรียกอีอย่างว่า ปราสาทชิระซากิโจ หมายถึงนกกระสาสีขาว เนื่องจากตัวปราสาทมีลักษณะเหมิอนนกกระสาที่กำลังสยายปีก เห็นด้วยตาเราก็ยังคงรับรู้ได้ถึงความสวยงามที่แทบไม่อยากจะเชื่อเลยครับว่าถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ปี1609 เรียกว่ามีอายุมากกว่า 400 ปีแล้ว

10 : Kitty Shinkansen

——

มาครับใครที่เป็นสาวกคิตตี้ต้องไม่พลาดกับอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องมากันให้ได้เลยกับ Kitty Shinkansen ที่ทั้งภายนอกภายในตกแต่งด้วยธีม Hello Kitty ได้อย่างน่ารักสวยงาม พร้อมมีของที่ระลึก Hello Kitty ขายภายในห้องโดยสารอีกด้วย

เรียกว่าหวานแบ๊วสีชมพูตั้งแต่ขบวนรถเลยครับ ขนาดผมเป็นผู้ชายชอบแต่อะไรสีดำๆ เห็นอย่างงี้ยังแอบรู้สึกว่า เอ้อออ…ก็น่ารักดีเหมือนกันนะเนี่ย 5555+ ซึ่งรถไฟขบวนนี้เป็นขบวนของ Sanyo Shinkansen Line วิ่งตั้งแต่ Hakata (ฟุกุโอกะ) ถึง Shin-Osaka (โอซาก้า) ซึ่งจะให้บริการวันละ 1 เที่ยวเท่านั้น แบบว่า Very Special จริงๆ ผมว่าสาวกคิตตี้คงมีนั่งกันเพลินจนไม่อยากจะลงแน่ๆ เพราะภายในตัวรถไฟนั้น คือเป็นคิตตี้ทุกซอกทุกมุมจริงๆ

ซึ่งเราก็จะนั่ง Kitty Shinkansen ขบวนนี้ไปลงที่เมือง Okayama กันครับ…

11 : ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ Shizutani School

——

โรงเรียนเก่าชิซึทานิ (Shizutani School) ก่อตั้งขึ้นสมัยเอโดะเมื่อปี 1670 นับเป็นโรงเรียนสำหรับชาวบ้านแห่งแรกในญี่ปุ่น และได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ที่นี่เรียกว่าเป็นจุดแวะเที่ยวชมและถ่ายรูปคู่กับวิวสวยๆของช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามมากๆ

12 : ร้านขายขนมญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น
(Nihon ichi no dagashi uriba)

——

คอขนมสงสัยต้องลองเเวะมาที่นี่กันสักหน่อยแล้ววววกับร้านขายขนมญี่ปุ่นดั้งเดิมที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น เรียกว่ามีขนมเยอะมากกกก มีทั้งน่ารักและน่ากิน เพราะเรื่อง Packaging นี่ต้องยกให้ญี่ปุ่นเลยจริงๆ เดินเข้ามาแบบไม่คิดอะไร แต่ก็อาจจะได้อะไรติดไม้ติดมือกลับไปเยอะแน่ๆ

13 : ปราสาทโอคายาม่าและสวน Korakuen

——

ปราสาทโอคายาม่าแห่งนี้ หรือเรียกอีกชื่อว่า ‘ปราสาทอีกา’ เพราะหอคอยของปราสาทมีกำแพงที่ถูกทาด้วยสีดำนั่นเอง สำหรับวิวในช่วงกลางวันนั้นเรียกว่าสวยงามสะดุดตามากๆอยู่แล้ว แต่ในทริปนี้เราจะมาเที่ยวชมกันในช่วงกลางคืน เพราะด้วยไฮไลท์การจัดไฟอันตระการตา

14 : ปั่นจักรยานชมเมือง Okayama

——

ขี่จักรยานตามรอยเส้นทางประว้ติศาสตร์กันในยามเช้ารับกันอากาศดีๆ และสดชื่นแบบนี้ที่ Kibiji Cycling Route ไม่ว่าจะมาฤดูไหนก็เที่ยวได้ตลอดทั้งปี เส้นทางนี้จะผ่านทั้งศาลเจ้าคิบิทสึฮิโกะ (Kibitsuhiko Shrine) , สวนสาธารณะ, วัดบิชูโคะคุบุนจิ (Bitchu kokubun-ji temple) ที่สวยงาม และมีบรรยากาศสวยๆให้เราได้ถ่ายรูปเยอะมากๆครับ

ถ้าสังเกตุให้ดีๆ เราก็จะเห็นสัญลักษณ์ของโมโมทาโร่ เจ้าหนูน้อยที่ออกมาจากลูกท้ออันเป็นเรื่องเล่าที่มีต้นกำเนิดมาจากเมือง Okayama นั่นเอง

ปั่นจักรยานผ่านศาลเจ้าคิบิทสึฮิโกะ

ปั่นต่อมาแล้วแวะเที่ยวที่วัดบิชูโคะคุบุนจิ

แล้วเราก็จะขี่จักรยานไปทานอาหารกลางวันกันที่ร้าน คิบิจิ โมเทนาชิโนะ ยากาตะ (Kibiji Motenashi-on Yakata) ซึ่งใช้รถบัสทั้งคันเป็นร้านอาหาร แบบว่าอันนี้เป็นอะไรที่ชอบไอเดียมากกกก บรรยากาศคือได้มาก

นี่เลยครับ เราก็จะนั่งทานอาหารกันในรถบัสแบบนี้เลย

15 : เที่ยวชมย่านประวัติศาสตร์คุราชิคิ
(Kurashiki Bikan Historical Quarter)

——

เมือง Kurashiki เป็นที่ตั้งของย่านประวัติศาสตร์ Kurashiki Bikan Historical Quarter การตกแต่งภายในพิ้นที่ยังคงความเป็นเมืองเก่า อาคารริมฝั่งแม่น้ำ ได้รับการบูรณะมาจากบ้านเรือนของพ่อค้าที่ร่ำรวยในสมัยก่อนเรียกว่าเดินเข้ามาแล้ว เหมือนเราได้ย้อนยุคกลับไปอยู่ในยุคสมัยนั้นเลย

และกิจกรรมที่ห้ามพลาดในการมาเมืองคุราชิคิ คือ การล่องเรือลำเล็กไปตามแม่นำคุราชิคิเพื่อชมความงดงามและสัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม ทำผ้ามัดย้อมสไตล์ญี่ปุ่น, ทำกระดุมแฮนด์เมด และทานอาหารกลางวันที่ย่านประวัติศาสตร์

16 : Kojima Jeans Street

——

ถ้ามาญี่ปุ่นแล้วอยากจะได้ยีนส์เจ๋งๆ มีความ Original สักตัว ผมว่าต้องไม่พลาดที่นี่เลยครับ กับ Kojima Jeans Street ที่มียีนส์แบรนด์ญี่ปุ่นมากมาย เช่น BIG JOHN ที่มาเปิดร้านเป็นเจ้าแรก

แฟนเดนิมจากทั่วญี่ปุ่นมาที่ย่านร้านค้าที่บูรณะขึ้นจากร้านค้าเก่าริมถนนเพื่อชมร้านค้าราว 30 แห่ง คาเฟ่ และร้านขายยีนส์คุณภาพแบรนด์ดังระดับโลก

ซึ่งเราสามารถขี่จักรยานเช่าจาก JR Kojima Station เพียง 5 นาที ก็มาถึงที่ Kojima Jeans Street ได้อย่างง่ายดาย อย่าลืมถ่ายภาพหน้ารถเมล์ยีนส์ที่บริการเฉพาะในย่านนี้ (ด้านนอกรถติดรูปยีนส์ ด้านในตกแต่งด้วยผ้าเดนิม) หรือถ่ายภาพกางเกงยีนส์มากมายที่แขวนอยู่บนถนนเก็บไว้เป็นที่ระลึก!

17 : โรงแรม คุราชิกิ เซโตะอุจิ โคจิมะ โฮเตล

——

กับที่พักสุดท้ายของทริปนี้ ที่สามารถมองเห็นวิวสะพานเซโตะโอฮาชิ (Great Seto Bridge) เป็นสะพานที่ทอดยาวไปตามอุทยานแห่งชาติไบซาน เซโตะ และหมู่เกาะมากมายของทะเลเซะโตะได้จากห้องพัก

เป็นสะพานสองชั้น 6 เลน และสะพานแขวน 4 เลน ซึ่งเชื่อมต่อซะไคเดะ จังหวัดคะกะวะ และคุระชิกิ จังหวัดโอะกะยะมะ นับเป็นสะพานที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่เรียกว่าเป็นสะพานแขวน สะพานสายเคเบิ้ลและสะพานเหล็กยึดที่ใหญ่ที่สุดในโลก

วิวนี้คือมองเห็นได้จากห้องพักเลย ดีสุดๆเลยใช่มั้ยละครับบบ

#คนหลงทาง #เที่ยวญี่ปุ่น #Okayama


  •