เที่ยวเมืองไทยอย่างไรให้ดูเท่ ให้ดู Cool ผมว่าคงไม่ได้อยู่แค่สถานที่สวยๆ ที่เราเลือกจะไป แต่รวมถึงความใส่ใจในธรรมชาติ หรือเที่ยวแบบมีใจ ‘รักโลก’ แล้วก็ต้องเข้าถึงธรรมชาติ วิถีชีวิต และวัฒนธรรมของสถานที่นั้นๆ อย่างลึกซึ้งอีกด้วย
และในทริปนี้ ผมจะขอพาทุกคนไปสัมผัสวิถีท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์กันที่จังหวัดที่เป็นเมืองรองอย่าง ‘อุดรธานี’ และ ‘หนองคาย’ ในดินแดนริมแม่น้ำโขงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่แม้แต่ผมเองก็คาดไม่ถึงมาก่อน โดยสถานที่ที่เราจะเดินทางไปกันในทริปนี้ ก็คือ…
- คีรีวงกต
- น้ำตกคุ้มช้างพลาย
- วัดป่าภูก้อน
- ชุมชนวังน้ำมอก
- วัดผาตากเสื้อ
ซึ่งการมาเที่ยวในครั้งนี้ เราก็จะมากันแบบใส่ใจธรรมชาติร่วมกันลดภาวะโลกร้อนโดยการท่องเที่ยวแบบ Low Carbon ซึ่งก็คือการเที่ยวแบบอนุรักษ์และใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานสิ้นเปลือง ลดการใช้พลาสติกและปัจจัยต่างๆที่เป็นภัยต่อธรรมชาติด้วยวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้าน และการใช้ชีวิตที่แสนกลมกลืนไปกับธรรมชาติ ที่ถือเป็นหัวใจหลักที่สร้างความยั่งยืนให้กับธรรมชาติได้คงอยู่กับเราต่อไปแบบนี้นานๆ…

สำหรับสถานที่แรกที่เราจะเดินทางกันไป นั้นก็คือ #หมู่บ้านคีรีวงกต ตั้งอยู่ที่อำเภอนายูง จ.อุดรธานี โดยเราจะมานั่งรถอีแต๊กล่องแก่งเข้าป่าไปชมวิวน้ำตก ภูเขาและทานอาหารริมน้ำตกกัน โดยทริปนี้ก็มีนักแสดงชื่อดัง ผู้มีหัวใจรักในธรรมชาติอย่าง ‘คุณอัค-อัคครัตน์’ มาร่วมเดินทางไปกับพวกเราด้วย

#บ้านคีรีวงกต ถือได้ว่าเป็นที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ด้วยบรรยากาศที่มีภูเขาล้อมรอบ มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียว อากาศสดชื่นดี บางฤดูมีทะเลหมอกให้ชม มีสวนสตอเบอร์รี่ที่ชาวบ้านปลูกด้วย เพราะถ้าถึงฤดูหนาวที่นี่จะหนาวไม่แพ้ภาคเหนือเลย
ผู้คนที่นี่มีอัธยาศัยดีเป็นกันเอง มีกิจกรรมให้ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติแนวบ้านๆ ด้วยการนั่งรถอีแต๊กล่องไปตามเส้นทางที่ต้องลุยน้ำชมธรรมชาติผ่านลำธาร ทุ่งนา และป่าเขา ทั้งสองข้างทางที่มองยังไงก็ไม่เบื่อ เพื่อไปกินข้าวป่าที่หุงจากกระบอกไม้ไผ่ นั่งกินข้าวท่ามกลางเสียงน้ำตก เหมาะเป็นที่พักผ่อนอย่างมาก ถ้าใครชอบผจญภัย สายรักธรรมชาติ อยากกินข้าวแบบเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง บอกเลยว่าไม่ควรพลาด…

ระหว่างทางจะมีสวนยาง ที่ปลูกกันเรียงราย สวยงามมากๆ

เจอเจ้าถิ่นตัวน้อยๆมาดักรอต้อนรับกันด้วยยยย

ถึงแล้ววววครับ น้ำตกคุ้มช้างพลาย น้ำตกเล็กๆกลางป่าเขาที่เราจะมาทานข้าวริมน้ำตกกันในวันนี้


ได้เวลาทานอาหารกลางวันกันแล้ว มาเที่ยวป่าเที่ยวเขาแบบนี้แน่นอน ต้องใส่ใจในธรรมชาติกันด้วย ชาวบ้านที่นี่เลือกจะใช้ใบตองและกระบอกไม้ไผ่มาเป็นภาชนะในการรองรับอาหาร ถือเป็นการท่องเที่ยวแบบ LowCarbon ช่วยลดภาวะโลกร้อนกัน เมนูในวันนี้ก็จะมี ข้าวเหนียวส้มตำ ปลานิลย่าง ไก่ย่างและเมนูเด็ดแกงส้มมัจฉาใส่นางตานี
แกงส้มมัจฉาใส่นางตานีจริงๆแล้วก็คือแก้งส้มปลานิลใส่หยวกกล้วยป่าที่พิเศษคือต้มจากกระบอกไม้ไผ่เลย เมนูทั้งหมดนี้อาจจะดูธรรมดาแต่รสชาติบอกเลย เอาไปห้าดาว อร่อยสุดๆ แถมได้นั่งกินริมน้ำตกแบบฟินๆ

หลังจากที่เราอิ่มท้องไปกับอาหารอร่อยๆ และอิ่มใจไปกับบรรยากาศสวยๆ ริมน้ำตกกันแล้ว ก็ได้เวลาที่เราต้องนั่งรถอีแต็กเดินทางต่อกันแล้ว

หลังจากที่ช่วงกลางวันเราเข้าไปสัมผัสบรรยากาศแนวป่าเขากันไปแล้ว ช่วงเย็นก็มาไหว้พระกันบ้างที่ #วัดป่าภูก้อน อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี พุทธสถานที่ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แวดล้อมไปด้วยป่าเขาและมีพระพุทธรูปหินอ่อนที่สวยงาม ถ้าได้มาตอนกลางคืนที่นี่จะสวยงามมากๆ



จบทริปสำหรับวันแรกกันไปแล้ว ต่อไปเราก็จะเข้ามายังที่พักในคืนกันที่ #โรงแรมสังคมริเวอร์วิว ที่อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย เป็นที่พักบรรยากาศดีมากกกก อยู่ติดริมแม่น้ำโขงเลย เเละยังอยู่ใกล้กับชุมชนวังน้ำมอกที่เราจะไปเยี่ยมเยือนกันในวันรุ่งขึ้นด้วยครับ


ยามเช้าที่ตื่นมาก็เจอวิวริมแม่น้ำโขงสวยๆแบบนี้ ทำเอาหายง่วงไปเลย สดชื่นมากๆ


มาต่อกันที่จุดหมายหลักของเราในวันนี้นั่นก็คือ #ชุมชนวังน้ำมอก อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ชุมชนที่มีความเป็นเอกลักษณ์และมีส่วนผสมผสานที่ลงตัวของการอนุรักษ์ธรรมชาติรอบถิ่นฐานกับวิถีชุมชนที่ผู้มาเยือนต้องหลงรัก มาถึงปุ๊บ ชาวบ้านก็ต้อนรับด้วยน้ำสมุนไพรกำลังเสือโคร่ง เป็นส

จากนั้นก็มาเปลี่ยนชุดไทยพื้นบ้านกันเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศและกิจกรรมที่เราจะทำกันในวันนี้


กิจกรรมแรกของวันนี้เราจะมาทำขันคู่ปี ซึ่งเป็นประเพณีดั้งเดิมที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนานของชุมชนวังน้ำมอก การทำขันคู่ปีนั้น ทำขึ้นเพื่อเสริมสร้างความเป็นศิริมงคลให้กับชีวิต โดยที่จะต้องปักธูปและดอกไม้ลงไปบนขันคู่ปีให้มีจำนวนเลยอายุของเราไป 1 ปี ใครอายุเยอะหน่อยก็ปักมากหน่อยนะครับ 55555+

และหลังจากทำขันคู่ปีเสร็จแล้วก็จะนำไปทำพิธีที่วัดใกล้ๆชุมชน เพื่อความเป็นศิริมงคล เมื่อพร้อมแล้วพวกเราก็ตั้งขบวน เตรียมเดินทางไปวัดกันครับ

มาถึงวัดก็ทำพิธีเสริมสร้างความเป็นศิริมงคลให้แก่ชีวิต

กลับมาถึงที่ชุมชนวังน้ำมอก ก็ทานอาหารกลางวันกันด้วยเมนูพื้นบ้านง่ายๆ อาทิเช่น ส้มตำข้าวเหนียว ไก่ย่าง แกงหน่อไม้และแน่นอน เรามาเที่ยวกันแบบ LowCarbon ภาชนะที่ใช้ก็จะไร้วัสดุสิ้นเปลือง ที่เป็นภัยต่อธรรมชาติ

หลังจากทานอาหารกลางวันกันอิ่มท้องเรียบร้อยแล้ว ก็มาเข้าสวนเข้าฟาร์มเลี้ยงไก่ของชาวบ้าน เพื่อเก็บผักริมรั้วและไข่ไก่เพื่อนำไปประกอบการทำอาหารเย็นในวันนี้

บรรยากาศรอบๆศูนย์รวมชุมชน จะมีเด็กๆในชุมชน มากระโดดเล่นน้ำกัน ดูแล้วอดยิ้มตามไม่ได้กับวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ที่บางทีคนเมืองกรุงอย่างพวกเรามองข้ามไป

มาถึงกิจกรรมต่อไป การทำอาหารเย็นบางส่วนไว้เพื่อรับประทานกันในเย็นวันนี้ ซึ่งเมนูแรกที่จะทำกันก็คือ ไก่บั้ง เป็นเมนูที่จะนำเนื้อไก่และส่วนประกอบต่างๆใส่ลงไปในกระบอกไม้ไผ่และนำไปเผาไฟจนสุกพร้อมทาน และอีกเมนูเป็นเมนูของหวาน ที่ต้องน้ำผักพื้นบ้านมาขยำด้วยมือและคั้นน้ำออกมาเพื่อให้น้ำจับตัวและกลายเป็นวุ้น หลังคั้นน้ำเสร็จแล้ว ต้องรอน้ำที่ได้จับตัวกันเป็นวุ้นและใส่กับกะทิ ไว้มารอดูเย็นนี้กันว่าหน้าตาและรสชาติจะเป็นอย่างไร

หลังจากเสร็จขั้นตอนแรก เราก็นำไก่บั้งมาเผาไฟกัน จะใช้เวลาเผาค่อนข้างนาน ราวๆ 2-3 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ในช่วงค่ำก่อนรับทานอาหารเย็น ก็จะมีการทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ-ซุมข้าวพาแลง เป็นพิธีต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองของคนในชุมชน เพื่อรับขวัญให้แก่ผู้มาเยือน และสืบทอดประเพณีให้อยู่คู่บ้านคู่เมืองตลอดไป ซึ่งก็จะมีการผูกข้อมือและให้พรจากผู้อาวุโสในชุมชน เพื่อเสริมสร้างความเป็นศิริมงคล


โคมไฟพาแลง เป็นโคมไฟต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองในพิธีบายศรีสู่ขวัญ ที่จะมีขึ้นในค่ำคืนนี้

ผ้าไทยที่ใส่กันอยู่นี้ มีชื่อว่า ผ้าฝ้ายลายดอกแก้วน้อย มีลายขิด มีความเชื่อว่าเป็นลายที่บ่งบอกถึงคุณงามความดีของคนให้และคนรับ

หลังจากทำพิธีบายศรีสู่ขวัญกันเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงอาหารเย็นของวันนี้ ซึ่งมีเมนูที่เราทำกันเมื่อตอนบ่ายด้วยเมนูเย็นนี้ก็ง่ายๆเช่นเดิม แกงจืด ไข่เจียว อั่วปลา ไก่บั้ง น้ำพริก ซึ่งวิธีทานไก่บั้งนั้น ก็คือนำใบชะพลูมาใส่เครื่องเคียงต่างๆและโปะหน้าด้วยไก่บั้ง รสชาติอร่อยนุ่มนวลและหอมกลิ่นสมุนไพรมากๆ

ปิดท้ายค่ำคืนนี้ด้วยภาพสวยๆของวังน้ำมอก ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันพักผ่อนที่โฮมสเตย์ของชาวบ้านในชุมชน

เริ่มเช้าวันที่สุดท้ายของทริป ด้วยการตื่นมาใส่ตักบาตรข้าวเหนียวยามเช้ากันครับ หลังจาก ใส่บาตรเสร็จ ก็ขอแวะมาทานข้าวจี่ร้อนๆกันหน่อย


แสงยามเช้าในชุมชนวังน้ำมอกสวยงามมากกกก บรรยากาศดีสุดๆ เห็นแบบนี้แล้วก็อดอิจฉาคนที่นี่ไม่ได้เลยนะครับเนี่ย ที่ได้อาศัยอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสวยๆแบบนี้

ก่อนจะเดินทางกลับ ก็แวะมาลองทำโคมไฟพาแลง โคมไฟหัตถกรรมพื้นบ้านที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก

และก่อนจะกลับกรุงเทพ เราแวะกันที่ #วัดผาตากเสื้อ ที่อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย ที่สามารถชมวิวแม่น้ำโขงและประเทศเพื่อนบ้าน ได้สุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว

บอกลาทริปนี้กันไปด้วยวิวแม่น้ำโขงสุดอลังการมุมนี้ และอยากให้ทุกคนได้มีโอกาสมาสัมผัสประสบการณ์การเที่ยวเมืองรองแบบนี้กันเยอะๆ แล้วที่สำคัญเลยก็คือ…อย่าลืมท่องเที่ยวแบบใส่ใจ เที่ยวแบบคนรักโลก รักธรรมชาติเพื่อร่วมกันลดภาวะโลกร้อนด้วยนะครับ
#เมืองรองต้องลองต้องรักต้องใส่ใจ#เที่ยวแบบLowCarbon#ลองเที่ยวลองใส่ใจกับเมืองรอง#คนหลงทาง#เที่ยวอุดรธานี#เที่ยวหนองคาย