Location : อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่https://maps.app.goo.gl/8tUvcN9LxDtGQAy17
ได้เวลาเปลี่ยนบรรยากาศจากชีวิตที่ทำงานจนแสนเหนื่อยล้า แล้วหันมาให้รางวัลตัวเองด้วยการจัดทริปเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง แล้วพาตัวเองออกไปโอบกอดธรรมชาติกันให้เต็มอิ่ม
หน้าฝนกำลังจะหมดไป ลมหนาวกำลังจะพัดผ่านเข้ามาแทนที่ ทริปหน้าหนาวปีนี้ เตรียมตัวหาที่พักดีๆ แล้วแพ็คกระเป๋าออกเดินทางกันเลยดีกว่า และในวันนี้จะพาทุกคนไปพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติกันที่ 𝐘𝐚𝐭𝐢𝐤𝐚 𝐁𝐨𝐮𝐭𝐢𝐪𝐮𝐞 𝐂𝐡𝐢𝐚𝐧𝐠 𝐃𝐚𝐨 ซึ่งเป็นที่พักเชียงดาว ที่มองเห็นวิวดอยหลวงสวยๆ แบบเต็มตา แล้วตื่นมารับสายหมอกในยามเช้ารับอากาศอันสดชื่น และวิวทุ่งนาอันเขียวขจีสุดสายตา
ที่ 𝐘𝐚𝐭𝐢𝐤𝐚 𝐁𝐨𝐮𝐭𝐢𝐪𝐮𝐞 𝐂𝐡𝐢𝐚𝐧𝐠 𝐃𝐚𝐨 เรียกว่าเป็นที่พักที่ตอบโจทย์วันหยุดอันมีค่าได้เป็นอย่างดี มาพร้อมกับความหรูหรา และความสะดวกสบายที่ครบครัน ด้วยโลเคชั่นที่เงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว และห่างไกลจากความวุ่นวายให้เราได้พักผ่อนกันอย่างเต็มที่จริงๆ ไม่ว่าจะมากันแบบเป็นคู่ หรือมากันแบบครอบครัว ก็มีกิจกรรมมากมายในที่พักเหมาะกับทุกเพศทุกวัย เอาเป็นว่าต้องรีบปักหมุดที่พักดีๆ แบบนี้ไว้ แล้วจัดทริปไปสัมผัสลมหนาวที่เชียงดาวกัน…
สอบถามรายละเอียดที่พักได้ที่…
Facebook >> Yatikaboutique
Tel : 080-946-5916, 080-945-3691

จะมีอะไรดีไปกว่าการได้มาพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ ในจังหวัดเชียงใหม่แบบนี้ และที่ “Yatika Boutique” ก็เป็นที่พักดีๆ ที่คู่ควรกับการให้รางวัลตัวเองสำหรับทริปที่จะพาตัวพาใจ มาชาร์จแบตกันที่ “เชียงดาว”
ต้องบอกเลยว่าแค่มาถึงก็ประทับใจกับบรรยากาศรอบๆ เพราะรายล้อมไปด้วยธรรมชาติแบบ 360 องศากันไปเลย
ในส่วนของกิจกรรมในที่พัก และ facilities นั้น ก็มีมากมาย…
+ มีห้องออกกำลังกาย
+ Gallery Hall
+ สระว่ายน้ำ
+ ปั่นจักรยานในที่พัก
+ พายเรือคายัคหรือปั่นเรือหงส์
+ เดินชมสวนเกษตร สวนกุหลาบปลอดสาร
+ มีร้านอาหาร Nakara Cafe & Restaurant


Yatika Boutique จะเป็นที่พักที่สไตล์ Luxury และการตกแต่งก็มีความผสมผสานระหว่างความเป็นไทย และศิลปะทางภาคเหนือออกมาได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหน รับรองว่าได้ภาพสวยๆ แน่นอน

มุมที่ชอบมากๆ เลยก็คงจะเป็นโซน Gallery Hall ซึ่งเราก็มาเดินชมกันได้แบบเพลินๆ หรือจะมาหามุมถ่ายภาพก็ได้ อลังการทุกมุม ด้วยบรรยากาศของ Hall ที่มาในโทนสีขาว ดูหรูหรา สะอาดตา มีภาพวาดสวยๆ เยอะมากๆ พื้นที่ก็กว้างขวาง เหมือนเรากำลังเดินชมภาพวาดอยู่ในหอศิลป์เลยทีเดียว



ที่พักของ Yatika Boutique ก็จะมีทั้งโซนที่เป็นตัวอาคารซึ่งจะมองเห็นวิวมุมสูงสวยๆ และมีแบบโซน Cottage ที่จะอยู่ท่ามกลางทุ่งนา เอาเป็นว่าวิวดี บรรยากาศก็ดีทุกแบบเลยล่ะ

ที่นี่จะมีจักรยานไว้ให้เราได้ขี่ชมบรรยากาศรอบๆ ด้วยล่ะ ร่มรื่นมากๆ

แวะมาชมรอบๆ ที่พักกันหน่อย ตรงนี้จะเป็นห้องพักโซน Cottage ที่อยู่กลางทุ่งนา ถ้าได้มาช่วงนี้บอกเลยว่านาข้าวกำลังเขียวสวยมากๆ

มีมุม Outdoor ให้เราได้นั่งเล่นพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติด้วยนะ

โซนสระว่ายน้ำ ที่สามารถมาเล่นน้ำไปพร้อมๆ กับการชมวิวเชียงดาวสวยๆ

มาดูที่ห้องพักกันบ้าง สำหรับห้องนี้จะเป็น Family Suite เหมาะกับการมาพักผ่อนกันแบบครอบครัว หรือมากันหลายคน ซึ่งห้องนี้จะเป็น 2 Bedrooms พักได้ประมาณ 4 คน ซึ่งจะเป็นห้องพักที่อยู่ในโซนตัวอาคาร

มองเห็นวิวมุมสูงสวยๆ จากระเบียงห้องพักแบบนี้ได้เลย มองเห็นดอยหลวงเชียงดาวได้แบบเต็มตา รับรองว่าฟินสุดๆ

ด้วยความที่เป็นห้อง Family Suite ก็จะมีพื้นที่กว้างมากๆ จัดสรรพื้นที่ทำเป็นมุมพักผ่อนได้เป็นอย่างดี มีทั้งมุมนั่งเล่น และยังมี Bathtub ให้เราได้แช่น้ำผ่อนคลายกันให้เต็มที่…


ใครที่ชอบห้องน้ำกว้างๆ รับรองว่าไม่ผิดหวัง จัดแยกโซนเปียก โซนแห้งไว้เป็นอย่างดี สิ่งอำนวยความสะดวกก็มีครบครัน ต้องบอกเลยว่าแม้แต่ห้องน้ำก็ยังใส่ใจในเรื่องของดีไซน์มากๆ สวยไปทุกมุมเลย

โซนนี้จะเป็นส่วนของ Pantry Room และมุมโต๊ะทานข้าว สำหรับใครที่ชอบดื่มกาแฟ ก็มีเครื่องชงให้พร้อม ให้เราได้นั่งพักผ่อนจิบกาแฟในห้องพักกันแบบชิลล์ๆ
การตกแต่งก็ยังคงคอนเซ็ปต์ของงานภาพวาด ชวนให้คิดถึงบรรยากาศห้อง Gallery Hall เลยล่ะ

นั่งจิบกาแฟชมวิวที่ริมระเบียง บรรยากาศดีมากๆ…

ที่ Yatika Boutique นั้น เรียกว่าครบจบในที่เดียว เพราะนอกจากที่นี่จะเป็นที่พักที่วิวสวย บรรยากาศดีแล้ว มี Facilities หลากหลายแล้ว ก็ยังมีร้านอาหารให้บริการ ซึ่งเราก็แทบจะไม่ต้องเดินทางออกไปไหนเลย จะได้ใช้เวลาในวันพักผ่อนกันให้เต็มที่
และมื้อกลางวันนี้ เราก็จะฝากท้องกันที่ Nakara Cafe & Restaurant ซึ่งก็จะเป็นทั้งคาเฟ่ และร้านอาหาร เสิร์ฟอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น ซึ่งแต่ละเมนูนั้นบอกเลยว่าดีมากกกก นอกจากการจัดจานจะสวยน่าทานแล้ว รสชาติก็อร่อยมากๆ และยังเลือกใช้วัตถุดิบอย่างดี ใส่ใจในทุกขั้นตอน และทุกเมนู แล้วยังมีเมนูพื้นเมืองสไตล์อาหารเหนือให้ได้ลองชิมกันด้วย

แต่ละเมนู เสิร์ฟมาแบบเนื้อๆ เน้นๆ อร่อยเต็มคำ นอกจากอาหารจะดีมากๆ แล้ว วิวร้านอาหารก็ดีไม่แพ้กัน มองเห็นธรรมชาติ และวิวดอยหลวงเชียงดาวได้เลย

มาดูในส่วนของคาเฟ่กันบ้าง บรรยากาศน่านั่งมากๆ การตกแต่งมาในโทนสีน้ำเงินตัดกับสีของงานไม้ ให้อารมณ์ที่ดูสุขุม หรูหรา และยังมีของตกแต่งที่เป็นงานสาน งานฝีมือเข้ามาด้วย เพิ่มความ Craft ละมุนๆ สายตาขึ้นมาได้ดีทีเดียว

มานั่งชิลล์ๆ จิบกาแฟกันสักแก้ว หรือจะสั่งของหวานมาทานคู่กันก็ดี และสำหรับใครที่ไม่ดื่มกาแฟก็มีเมนูเครื่องดื่มแบบ Non Coffee ให้ได้เลือกกันตามชอบเลย


อีกหนึ่งห้องพักที่ต้อง Recommend กันเลยก็คือ “Deluxe Galleria Panoramic Corner” ฟินกันให้เต็มที่ ยกระดับวันพักผ่อนให้เติมเต็มยิ่งกว่า ด้วยห้องพักที่มาพร้อมกับอ่าง Jacuzzi มองเห็นวิวดอยหลวงเชียงดาวแบบพาโนรามา ให้เราแช่ตัวผ่อนคลายไปกับการชมวิวสวยแบบนี้…


ห้องนี้จะมี 1 เตียงนอน และมีพื้นที่ใช้สอยที่จัดเป็นสัดส่วน ห้องขนาดใหญ่ มีพื้นที่กว้างมากๆ มีมุมให้นั่งเล่น มุโต๊ะอาหาร รวมไปถึงมุมโต๊ะทำงาน ก็ฟังก์ชั่นครบครัน เผื่อใครอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานให้ชิลล์กว่าเดิม….

มุมห้องน้ำจะไม่พูดถึงก็คงไม่ได้ เพราะตกแต่งออกมาดูสวย และยังคงความหรูหรา แต่ละมุมก็คุมโทนสีดูเข้ากันไปหมด

โซน Pantry Room ที่แทบจะเหมือนห้องครัวตามหมู่บ้านจัดสรรเลยก็ว่าได้ ทั้งกว้าง และฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบถ้วน


มุมไฮไลท์ที่ต้องบอกเลยว่าดีต่อใจมากๆ มานอนแช่อ่าง Jacuzzi แล้วฟินไปกับวิวแบบนี้เลย มองลงไปด้านล่าง ก็จะเห็นโซนห้องพักแบบ Cottage ที่อยู่กลางทุ่งนาเขียวขจี


ยามเย็นๆ ที่แสงแดดเริ่มอ่อนลงกำลังสวย ก็ออกมาเดินเล่นชมบรรยากาศวิวทุ่งนากันหน่อย ช่วงนี้นาที่เชียงดาวกำลังสวยมากๆ มองไปทางไหนก็เป็นสีเขียวสบายตาสุดๆ


จะมาพายเรือคายัค หรือปั่นเรือหงส์ในบึงใหญ่ท่ามกลางเงาสะท้อนของดอยหลวงบนผืนน้ำในช่วงยามพระอาทิตย์ตกก็บรรยากาศดีมากๆ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมทำเพลินๆ ในยามเย็น


มื้อค่ำเรายังคงทานอาหารที่ Nakara Cafe & Restaurant ของทางที่พัก ซึ่งที่นี่ก็เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน มาทานกันได้ 3 เวลา เช้า กลางวัน และเย็นเลยทีเดียว ยิ่งช่วงเย็นๆ แบบนี้ก็ขอย้ายออกมานั่งที่โซน Outdoor รับลมชมวิวกันหน่อยเพราะธรรมชาติสวยเกินห้ามใจ เห็นแสงทไวไลท์ตอนพระอาทิตย์ตกดิน เป็นการทานมื้อค่ำที่ฟินสุดๆ

สำหรับมื้อนี้ ขอเปลี่ยนสไตล์เมนูอาหารเป็นแบบยุโรปกันบ้าง จัดเต็มทุกเมนูอีกเช่นเคย พิถีพิถันตั้งแต่การจัดจานให้ออกมาดูสวยน่าทานไร้ที่ติ อิ่มอร่อยด้วยเมนูต่างๆ เช่นพิซซ่า, สเต็ก, สปาเก็ตตี้ และอื่นๆ ที่แนะนำว่าต้องมาลองให้ได้เลยล่ะ!


ช่วงค่ำๆ แบบนี้ รอบๆ ที่พักก็บรรยากาศดีไม่แพ้ตอนกลางวันเลย เปิดไฟโทน Warm light ดูอบอุ่น สบายตา…



รางวัลของคนตื่นเช้ามักคุ้มค่าเสมอ ก็ตื่นมารับลมเย็นๆ ที่พัดผ่าน แล้วชมสายหมอกที่ไหลไปมารอบๆ ที่พัก บอกเลยว่าสดชื่นมากกกก


เมื่อพระอาทิตย์เริ่มขึ้นมา ท้องฟ้าก็ดูเปลี่ยนไป ให้อารมณ์และความรู้สึกแตกต่าง แต่วิวก็ยังคงสวยเหมือนภาพวาดเลยทีเดียว



แสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า ยิ่งทำให้ทุ่งนา และห้องพักในโซน Cottage ดูบรรยากาศดีแบบสุดๆ


หลังจากฟินๆ กับวิวยามเช้ากันไปแล้ว เราก็จะไปทานอาหารเช้ากันที่ Nakara Cafe & Restaurant เช่นเดิม ชอบบรรยากาศของห้องอาหารที่จัดออกมาได้สวยน่านั่งมากๆ



ออกมาเลือกมุมนั่งทานอาหารที่โซนด้านนอกกันบ้าง บรรยากาศดีมากๆ

มื้อเช้าก็อิ่มอร่อยกันเบาๆ

ก่อนจะบอกลาทริปนี้กันไป ก็ขอพาทุกคนแวะมาดูห้องพักในโซน Cottage กันหน่อย ใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว ได้พักวิลล่าเป็นหลัง ก็ต้องมาโซนนี้เลย แถมยังได้ใกล้ชิดธรรมชาติสุดๆ เพราะแค่ก้าวเท้าออกมาไม่กี่ก้าว ก็จะเจอกับทุ่งนาสวยๆ ที่หน้าพักแล้วล่ะ

ภายในห้องก็ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ห้องพักตกแต่งดูสวยหรูหรา คงคอนเซ็ปต์เดียวกันกับห้องพักแบบอื่นๆ เลย

ได้มาพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติแบบนี้ บอกเลยว่าหน้าหนาวปีนี้ ยังไงก็ต้องหาโอกาสมาเยือนที่ Yatika Boutique กันให้ได้เลย รับรองว่าจะเป็นวันหยุดพักผ่อนที่ประทับใจอย่างแน่นอน…
#คนหลงทาง #เที่ยวเชียงใหม่ #ที่พักเชียงใหม่ #ที่พักเชียงดาว