พิกัด : เขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี
——
คำที่ใครๆ มักจะพูดกัันว่า ‘วงการนี้ เข้าแล้วออกยาก’ผมว่าวงการท่องเที่ยวก็คืออีกหนึ่งสิ่ง ที่เข้าแล้วออกยากเหลือเกินเพราะเมื่อเราเริ่มได้สัมผัสกับธรรมชาติแล้วล่ะก็บางทีเราเองอาจจะเสพติดไปแบบไม่ทันได้รู้ตัวเลยและจะต้องคอยหาเวลาออกไปเสพธรรมชาติเสพอรรถรสของการเดินทางอยู่เสมอๆ
และไม่ว่าใครก็ตามที่เริ่มได้ออกเดินทางแล้วก็เป็นอันต้องมีทริปที่เที่ยวในใจตามมาอีกยาวเป็นหางว่าว แล้วแน่นอนครับว่า ‘เขื่อนเชี่ยวหลาน’ คือหนึ่งในสถานที่ที่ผมอยากแนะนำกับทุกคนเลยว่า ควรหาโอกาสมาเยือนให้ได้ อย่างน้อยคนละครั้ง-สองครั้งในชีวิตจริงๆ ครับ เพราะเป็นประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนที่ไหนๆ และการนั่งเรือเข้าไปในใจกลางวิวธรรมชาติของเขื่อนอันกว้างใหญ่ ซึ่งมีเพียงไม่กี่แห่งในไทยเท่านั้นครับ
แล้วในทริปนี้ ผมจะทำให้ทริปเชี่ยวหลานทริปนี้พิเศษขึ้นไปอีกเพราะการนอนแพแบบบ้านไม้ทั่วไปก็คงจะเห็นกันบ่อยแล้วแต่ที่ ‘เชี่ยวหลาน เลค แค้มป์’ นั้น ได้เอาความเป็นแคมป์ปิ้งมาปรับให้เข้่ากับบรรยากาศการพักแพลอยน้ำได้อย่่างลงตัวด้วยการนำเต็นท์กระโจมมาทำเป็นบ้านพักแทนไปเลยครับบบบบอกเลยว่าดูมีสไตล์มากขึ้น เอาเป็นว่าสำหรับใครที่ชอบอะไรแนวนี้ต้องไม่พลาดเลยครับ เพราะที่นี่นั้นคือเด็ดทั้งโลเคชั่น และเด็ดทั้งตัวบ้านพักเลยจริงๆนอกจากนี้ ผมก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่สามารถแวะไปเที่ยวเพิ่มความฟิน ความชิลล์เข้าไปอี๊กกกกไหนๆ ก็เดินทางมาไกลถึงสุราษฎร์ธานีแล้วใช่มั้ยครับจะให้เที่ยวแค่ที่เดียวแล้วกลับก็กระไรอยู่ไปแวะที่เที่ยวที่น่าสนใจ ให้ได้เดินเล่นถ่ายรูปกันไปเพลินๆ
สอบถาม / จองที่พัก ‘เชี่ยวหลาน เลค แค้มป์’
แพ็คเกจที่พักสุดคุ้ม 2 วัน 1 คืน ราคา 3,990 บาท/ท่าน
รวมทุกอย่างให้เรียบร้อย ตามนี้เลยครับบบ…
+ ที่พักเต็นท์ลอยน้ำ
+ อาหาร 3 มื้อ
+ เรือไป-กลับ และบริการนำเที่ยว
+ กิจกรรมเรือคายัค
+ ประกันอุบัติเหตุแบบกลุ่มFacebook >> เชี่ยวหลาน เลค แค้มป์ – Cheow Lan Lake Camp
Tel. 081-9567274
Line ID: cheowlanlakecamp
หลังจากที่เราเดินทางมาถึงที่เขื่อนเชี่ยวหลานแล้ว สำหรับการเดินทางไปที่พักนั้น เราก็จะต้องนั่งเรือต่อเข้าไป แต่เมื่อมาถึงแล้ว ก่อนอื่นก็ต้องแสกน QR Code ลงทะเบียนก่อนเข้าเขตอุทยาน ตรวจวัดอุณหภูมิตามกฎการท่องเที่ยววิถี New Normal กันให้เรียบร้อยนะครับ
ซึ่งที่พักที่เราจะนั่งเรือเข้าไปกันในทริปนี้ ก็คือ ‘เชี่ยวหลาน เลค แค้มป์’ ซึ่งผมรับรองเลยว่าบรรยากาศดีมากกกก
ระหว่างที่นั่งเรือเข้าไป เราก็จะผ่านจุดที่เรียกกันว่า ‘กุ้ยหลิน เมืองไทย’ แวะถ่ายรูปกันไปกับวิวสวยๆ
จากนั้นเราจะเดินทางไปต่อเพื่อไปเดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติกันครับ นักท่องเที่ยวบางคนอาจชอบกิจกรรมแบบนี้เดินป่าลุยๆหน่อย
เส้นทางเดินที่ไปเดินสำรวจถ้ำพรเพชร เราจะใช้เวลาเดินไป-กลับ 3 ชั่วโมงเพื่อเขาไปชมความสวยงามแปลกตาภายในถ้ำ ก็สามารถติดต่อกิจกรรมนี้ได้กับทางรีสอร์ทที่เราจะไปพักกันในวันนี้ได้เลยครับ
หลังจากที่เราเดินทางออกจากถ้ำพรเพชรกันมาแล้ว ก็นั่งเรือต่อไปอีกประมาณ 15 นาทีก็จะถึง ‘เชี่ยวหลาน เลค แค้มป์’ กันแล้ว แค่เห็นโลเคชั่นยังดีต่อใจขนาดนี้ อย่ารอช้ากันเลยดีกว่า รีบไปเช็คอินกันเลยยย
เมื่อมาถึงก็มี welcome drink เป็นน้ำลิ้นจี่หวานเย็นชื่นใจ
ต่อไปเรามาดูที่พักกันดีกว่า ซึ่งห้องพักของที่นี่ จะเป็นแพริมน้ำในแบบที่แตกต่างออกไป ปกติเราอาจจะเคยชินกับเต็นท์กระโจมที่กางนอนกันเวลาออกทริปแค้มปปิ้งเที่ยวป่าเขากันใช่มั้ยครับ แต่ครั้งนี้เต็นท์กระโจมจะมาลองลอยน้ำกันดูบ้างล่ะ
ซึ่งภายในเต็นท์ที่นั้น บอกเลยว่าพื้นที่กว้างขวาง พักกันสบายๆ ลืมหน้าแพแบบเดิมๆ ไปได้เลย
ด้านในก็มีห้องน้ำในตัวเรียกว่าทั้งสงบ และเป็นส่วนตัวมากๆ
วิวหน้าห้องที่มานั่งผ่อนคลายกันให้สบายใจ จะได้เห็นนกและได้ยินเสียงสัตว์ป่าเป็นระยะ แพแห่งนี้เรียกว่าอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่โอบล้อมเราไว้แบบ 360 องศา
น้ำใสและมองเห็นปลาเยอะมากๆ
สำหรับมื้อกลางวันของที่เชี่ยวหลาน เลค เเค้มป์นั้นเรียกว่าอร่อยแบบจัดเต็ม กับเมนูอาหารไทยที่รสชาติถูกปาก ทานไป ดูวิวไป เพลินสุดๆ
ตกเย็นก็มาพายเรือคายัคกันครับ ชมวิวสวยๆ ในช่วงเวลาที่ใกล้จะพระอาทิตย์ตกแบบนี้ และน้ำใสจนเป็นสีเขียวมรกต พายเรือฟังเสียงนกที่ร้องนานาสายพันธุ์ ถ้าโชคดีอาจจะได้เห็นฝูงวัวกระทิงลงมากินน้ำช่วงเย็นกันด้วย
พระอาทิตย์ก็ค่อยๆ ลับตาเราไป เหลือไว้เพียงแสงในช่วงเวลาทไวไลท์ ที่สวยจนต้องหยุดมอง…
เริ่มค่ำแล้ว อากาศก็เริ่มเย็นขึ้นมาเลยนะครับเนี่ย หากใครมาก็เตรียมเสื้อผ้าใส่อุ่นๆ ไว้มาเผื่อก็ได้นะ
มื้อเย็นกับอาหารไทยสุดอร่อย แถมยังมีขนมหวาน และผลไม้ตบท้ายเบาๆ ทำให้มื้อนี้ฟินกันไปแบบครบรสทุกชาติ…
ดึกๆ ก็เดินออกมาดูดาวจากหน้าเต็นท์ที่พักเลย คืนนี้ไม่มีเหงาแน่นอนครับ เพราะมีดาวนับล้านอยู่เป็นเพื่อนเราตลอดทั้งคืน
ตื่นเช้าชมความงามของธรรมชาติ กับสายหมอกที่ลอยเหนือยอดเขา และผืนน้ำก็ยังมีไอหมอกลอยขึ้นมา เห็นแล้วอาจจะคิดว่าอยู่ภาคเหนือเลยล่ะ แถมยังอากาศเย็น สดชื่นมากครับ
เมื่อแสงแดดเริ่มขึ้นมาทักทาย ก็กระทบกัยไอหมอกและผืนน้ำ จนเปล่งประกายระยิบระยับเป็นสีทองสวย ทั้งทีามองเห็นด้วยตา แต่บรรยากาศคือเหมือนภาพวาดเลยล่ะ
ความพิเศษของการได้มาพักที่นี่ คือด้วยความเงียบสงบ และเป็นมิตรกับธรรมชาติรอบๆ ก็จะทำให้เรานั้นโชคดีตรงที่จะเห็นสัตว์ต่างๆ มาทักทายเราอยู่หลายครั้ง และทางที่พักเองก็ยังมีโครงการอนุรักษ์สัตย์ป่าและวิจัยสัตว์ซึ่งร่วมมือกับอุทยานเขาสก และมีการติดกล้องเพื่อเก็บภาพสัตว์ป่าและเก็บข้อมูลต่างๆ ส่งให้ทางอุทยานต่อไป เพื่อช่วยอนุรักษ์ไว้ไม่ให้สูญพันธุ์ อย่างวันนี้ก็ได้เห็นทั้งลิง, ค่างแว่น, เหยี่ยวกินปลา และนกต่างๆ รวมทั้งนกเงือก อันเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าแห่งนี้
กล้องส่องสัตว์ที่สามารถหยิบยืมจากทางที่พักเพื่อชมสัตว์ป่ารอบๆ ได้เลยครับ
มื้อเช้ากับเมนูแสนอร่อย ที่รสชาติดีไม่แพ้เมนูในมื้ออื่นๆ เลย จะรองท้องกันด้วยข้าวต้มร้อนๆ หรือจะทานแบบ American Breakfast ก็มี เลือกได้ตามใจ
เอาล่ะครับบบ หลังจากที่เราเดินทางกลับกันออกมาจากที่พักแล้ว ก็ยังมีเที่ยวใกล้ๆ ที่สามารถแวะได้อีกหลายแห่ง ไหนๆ ก็มาแล้วเพื่อไม่ให้เสียเที่ยวก็วนรถเข้าไปถ่ายรูปวิวสันเขื่อนรัชชประภา หรือ เขื่อนเชี่ยวหลานกันหน่อย
วัดเขาพัง และสะพานแขวนเขาพัง
พิกัด >> https://goo.gl/maps/ysVfjsQ5xZr5ow9NA
——
ขับรถต่อจากเขื่อนรัชชประภา ไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ก็จะเป็นอีกหนึ่งจุดยอดฮิตที่ไม่มาไม่ได้เลย ‘สะพานแขวนเขาพัง’ ภูเขารูป กับวิวภูเขารูปหัวใจของเขาเทพพิทักษ์ และสะพานแขวนที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำ ดูสวยงามมากๆ ครับ
เดินไปบริเวณวัดเขาพังกันบ้างครับ แวะไปกราบไหว้พระที่ด้านใน เพื่อความเป็นสิริมงคลกันสักหน่อย
หรือจะเดินหาซื้อของฝาก ที่นี่ก็มีเช่นกันนะครับ
อุทยานธรรมเขานาในหลวง
พิกัด >> https://goo.gl/maps/VCticFFmkJ6itm6u6
อีกหนึ่งในความ Unseen ของจังหวัดสุราษฎร์ที่ใครจะคิดละครับว่า การมาเที่ยวสถานที่ปฎิบัติธรรม จะสร้างความตื่นตาตื่นใจได้ขนาดนี้ บางคนอาจจะไม่ค่อยชอบการมาเที่ยวอะไรแบบนี้ เพราะอาจจะกลัวว่าน่าเบื่อ ไม่มีอะไรตื่นเต้นเหมือนกับการที่เราไปเที่ยวอื่นๆ แต่ผมคงต้องบอกเลยว่าความรู้สึกเหล่านี้จะไม่เกิดกับที่นี่แน่นอนครับ กับ ‘อุทยานธรรมเขานาในหลวง’ ที่บอกเลยว่า เป็นวัดที่สวยงามดั่งว่าหลุดออกมาจากภาพวาดเลยก็ว่าได้
อย่าเพิ่งไปคิดว่า เฮ้ยยย มุมกล้องหรือเปล่า ?…ถ่ายออกมาแล้วแต่งในคอมน่ะสิ ?….ผมการันตีเลยว่า สถานที่จริงสวยงามกว่าภาพถ่ายเสียอีก การมองด้วยตาเปล่าของเรา มันสามารถเก็บความรู้สึก และเก็บรายละเอียดได้ดีกว่ากล้องถ่ายภาพหลายเท่า ภาพของเจดีย์ลอยฟ้า เป็นอะไรที่สะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรกที่ผมได้ยินชื่อของสถานที่นี้ และตั้งใจไว้นานแล้วครับ ว่าถ้ามีโอกาสได้มาเยือนจังหวัดสุราษฎร์ ผมจะต้องมาที่นี่ให้ได้…
ที่นี่ถือเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่รายล้อมไปด้วยทะเลหมอก และบรรยากาศธรรมชาติแห่งขุนเขาสูงตะหง่าน โดยด้านบนจะมีเจดีย์ลอยฟ้า พระพุทธศิลาวดี ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุเอาไว้
พอท้องฟ้าเริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ ก็ให้บรรยากาศที่ดูแตกต่างออกไป…
ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราด
พิกัด >> https://goo.gl/maps/RnNGVYC6hyX92NMi9
——
ปิดทริปการมาเยือนจังหวัดสุราษฎร์ธานีกันด้วยสถานที่ที่เห็นแล้วเย็นตาเย็นใจเป็นที่สุด และหากไม่ได้มาชมอีกหนึ่งความ Unseen ณ ป่าต้นน้ำบ้านน้ำราดก็คงจะเหมือนจะมาไม่ถึง
ด้วยความใสของน้ำ และสีฟ้าสวยจนละสายตาไปแทบไม่ได้เลย เป็นความอัศจรรย์ของธรรมชาติจากบ่อน้ำผุดที่ใสราวกับกระจก และพื้นของบ่อที่เป็นทรายตะกอนหินปูนจึงทำให้น้ำใสอยู่แบบนี้ตลอดเวลา และนักท่องเที่ยวก็สามารถมาเล่นน้ำที่นี่ได้ด้วยเช่นกันครับ
#คนหลงทาง #เที่ยวสุราษฎร์ธานี #เขื่อนเชี่ยวหลาน
#ที่พักเขื่อนเชี่ยวหลาน #แพริมน้ำ #เชี่ยวหลานเลคแค้มป์