พิกัด : ต.ผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
เมื่อลมหนาวพัดผ่าน ก็พาคิดถึงการเดินทางไปไหนไกลๆไปในที่ที่ไม่เคยไปมาก่อน ไม่เคยรู้จัก ไม่เคยได้ยินชื่อและเป็นสถานที่ที่น้อยคนนักจะเคยได้มาเยือน…
แม่ฮ่องสอน เป็นอีกจังหวัดที่ผมมาซ้ำๆ อยู่ทุกปีหลงรักความเป็นธรรมชาติ หลงรักระยะทางที่ไกลแสนไกลแต่ไม่รู้ทำไมถึงไม่ได้รู้สึกเบื่อที่ต้องขับรถลัดเลาะไปตามยอดเขาภูเขาลูกแล้วลูกเล่าที่เราขับผ่านมาตลอดเส้นทางที่มองเผินๆ ก็อาจจะเห็นแค่ต้นไม้สูงใหญ่ขึ้นปกคลุมทั่วไปหมดแต่เคยคิดมั้ยครับ… ว่าบางที ท่ามกลางภูเขาเหล่านี้อาจจะมีอะไรที่ซ่อนอยู่ ที่เรายังไม่เคยรู้ และไม่เคยเห็นก็ได้…
‘ห้วยปูแกง’ เป็นหมู่บ้านชาวเขาอันแสนธรรมดาและเรียบง่าย แต่ทำไมนะ ทำไมผมถึงอยากแนะนำให้ทุกคนมาเที่ยวกัน ? นึกถึงบรรยากาศการท่องเที่ยวในสมัยก่อน ที่ทุกอย่างคือความ Real ไร้ซึ่งผู้คนแออัด และการปรุงแต่งใดๆ แล้วก็หวนความรู้สึกให้อยากกลับไปเที่ยวแบบนั้นอีกครั้งไม่เห็นต้องเที่ยวตามกระแส… อยากไปไหนก็ไป ไปสักที่ที่จะได้พักผ่อนจริงๆ ได้อยู่กับธรรมชาติจริงๆ อยู่กับความธรรมดาที่ไม่ต้องแย่งกันเที่ยวจนความสุขมันหายไปกับเส้นทางล่องเรือไปตามสายหมอกเพื่อเข้าไปยังหมู่บ้านทุกอย่างรอบตัวสวยงามและเงียบสงบ พบกับวิถีชีวิตชาวบ้าน พักโฮมสเตย์ ใช้ชีวิตช้าๆ ซึมซับบรรยากาศกันให้เต็มอิ่มกับหมู่บ้านที่ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาอย่าง ‘ห้วยปูแกง’

สำหรับการเดินทางมาที่หมู่บ้านห้วยปูแกงนั้น จะมาได้ 2 แบบครับ แบบแรกคือขับรถมาจอดไว้ที่ท่าเรือห้วยเดื่อ แล้วเหมาเรือเข้าไปยังหมู่บ้าน ราคาไปกลับ 600 บาท หรือจะขับรถมาจอดที่หน้าหมู่บ้าน ตรงท่าเรือห้วยปูแกงซึ่งเป็นฝั่งตรงข้าม และนั่งเรือข้ามฟากมาคนละ 20 บาทก็ได้ครับ
แต่ถ้าให้แนะนำ ผมว่าแบบเเรกจะดีกว่า และควรจะมาตอนเช้าๆ เพราะเราจะได้ล่องเรือไปตามเส้นทางสายหมอกสวยๆตลอดทาง

วิวสองข้างทางคือดีเกินจะบรรยาย



เส้นทางในการล่องเรือเข้าหมู่บ้านนั้นเราจะใช้เวลากันประมาณ 20 นาทีก็จะมาถึงที่ท่าเรือห้วยปูแกง

จุดนี้คือฝั่งตรงข้ามท่าเรือห้วยปูแกง สำหรับใครที่ขับรถมาจนถึงที่นี่เลย ก็มาเรียกเรือข้ามฟากกันตรงนี้เลยครับ


มาถึงหมู่บ้านกันแล้วววว มองไปรอบๆสิครับ อากาศดีแค่ไหน มีแต่หมอกทุกทิศทาง

เรียกว่าเป็นหมู่บ้านใต้ม่านหมอกเลย

เราเข้าไปชมข้างในหมู่บ้านกันดีกว่า….


เจอสาวน้อยมานั่งส่งยิ้มหวานๆ ชาวบ้านที่นี่ก็จะเป็นชาวเขาที่อยู่ร่วมกันถึง 5 ชาติพันธุ์ ทั้งชาวกะยัน (กะเหรี่ยงคอยาว), ชาวกะยอ (กะเหรี่ยงหูใหญ่), ชาวกะยา (กะเหรี่ยงแดง), ปกาเกอะญอ (กะเหรี่ยงขาว), และไต (ไทยใหญ่)

ที่หมู่บ้านนี้ ก็จะมีตลาดเล็กๆที่ขายสินค้างานฝีมือของชาวบ้านด้วยครับ จะมีทั้งผ้าทอ ผ้าพันคอทอมือ ตุ๊กตาไม้แกะสลัก เครื่องประดับจากทองเหลือง เครื่องดนตรีพื้นบ้าน และเครื่องจักสาน




สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือน ก็สามารถมาเรียนรู้การทอผ้าด้วยกี่เอวกันได้เลยครับ

เดินลัดเลาะหมู่บ้านไปเรื่อยๆก็จะเจอกับโรงเรียนน้ำเพียงดิน สาขาห้วยปูแกง

ลูกหลานชาวบ้านตัวเล็กตัวน้อยเดินไปโรงเรียนกัน



ชาวเขาส่วนใหญ่ในภาคเหนือของไทยก็นับถือศาสนาคริสต์กัน เห็นได้ในหลายๆจังหวัดเลยทีเดียว ที่นี่ก็เลยจะมีโบสถ์คริสต์อยู่ด้วยครับ


บรรยากาศในยามที่มีหมอกลงรอบๆหมู่บ้าน

สำหรับใครที่มาเที่ยวที่นี่แล้วจะค้างคืนก็ได้นะครับ มีโฮมสเตย์ชาวบ้านให้บริการ หรือจะมาแบบไปเช้าเย็นกลับก็ได้เหมือนกัน

เดินชมบรรยากาศรอบๆหมู่บ้านกันครับ


ไม่มีเตาเเก๊ส หรือสิ่งอำนวยความสะดวกใดๆ หากมีเพียงหม้อธรรมดาและกองฟืนกองไฟเท่านั้น



ร้านค้าที่เปรียบเสมือน 7-11 ในเมืองใหญ่

จุดชมเสาต้นธีลานประเพณีของชาวกะยัง เป็นเสาหลักแห่ง ‘ขวัญ’ กำลังใจหมู่บ้านที่ชาวบ้านให้ความเคารพบูชา ซึ่งทุกๆปี จะมีการจัดงานประเพณีปอยต้นธี ในช่วงเดือนเมษายนที่ถือเป็นประเพณีปีใหม่ มีพิธีเต้นระบำรอบต้นธี

มีศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา ที่สามารถเข้าไปชมกันได้ครับ



ยามค่ำคืนที่มีดาวอยู่เต็มฟ้าท่ามกลางบรรยากาศหมู่บ้านอันเงียบสงบ

ยามเช้ากับทะเลหมอกที่ปกคลุมอยู่เหนือหมู่บ้าน ที่เหมือนกับอยู่สวรรค์


เดินทางกลับด้วยการล่องเรือฝ่าหมอกออกจากหมู่บ้านในเช้าวันที่ 2 กับธรรมชาติที่จะประทับใจไม่มีลืม…

#คนหลงทาง#เที่ยวแม่ฮ่องสอน#YECMaehongson#หอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน