พิกัด : อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
โ อ๊ ะ มื่ อ โ ช เ ปอ . . .ก่อนอื่นก็คงต้องขอสวัสดีกับทุกคนเป็นภาษาปกาเกอะญอกันหน่อยครับบบเพราะผมเพิ่งจะกลับมาจากทริปเชียงใหม่กันแบบสดๆร้อนๆ’จังหวัดเชียงใหม่’ ผมถือว่าเป็นจังหวัดที่ไม่ไกลเกินจะไปเที่ยว อาจจะดูไกลเพราะด้วยความที่อยู่ในแถบเหนือสุดของไทยแต่ถ้าคิดจะไปเที่ยวแล้วละก็…3 วัน 2 คืนก็เกินพอ ไม่ต้องทริปยาวอะไร นั่งเครื่องไปแปปเดียว ไม่กี่ชั่วโมง ก็พร้อมจะลุยต่อได้เลยทันที
Chingmai Right Now…ถ้าอยากรู้ว่าเชียงใหม่ในวันนี้ตอนนี้เป็นอย่างไร น่าเที่ยวขนาดไหน ผมจะพาทุกคนไปสัมผัสวิถีชีวิต และธรรมชาติสวยๆ กันที่ #บ้านผาหมอน หมู่บ้านเล็กๆ ใจกลางขุนเขาอันเป็นหมู่บ้านของชาวปกาเกอะญอที่มองไปทางไหนก็มีแต่ความเขียวขจี และนาขั้นบันไดที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา แต่ไฮไลท์เด็ดที่มีมากกว่านาขั้นบันได ผมว่าคงเป็นการได้มาเที่ยวแบบเข้าถึงวิถีชีวิตชาวบ้านจริงๆ ได้มากินมานอนในโฮมสเตย์ มาเรียนรู้เรื่องราวมากมาย ในแบบที่คนที่นี่เป็นและอยู่กันจริงๆ
การจะมาเที่ยวที่บ้านผาหมอนนั้นจะเน้นการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน เติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวอย่างเหมาะสม เพื่อคงทุกสิ่งทุกอย่างตามวิถีเดิมๆให้ได้มากที่สุด ไม่ได้เน้นเที่ยวแบบเปิดกว้างและไม่ได้รองรับนักท่องเที่ยวได้มากมายหรือคนทุกกลุ่ม อาจจะเหมาะกับคนที่กินง่ายอยู่ง่าย เน้นเที่ยวธรรมชาติ ค่อนข้างจะเหมาะกับคนที่ตั้งใจและอยากมาสัมผัสการเที่ยวแบบชุมชนจริงๆ ถ้าใครที่รู้ตัวว่าแบบนี้แหละเป็นแนวที่ใช่ เป็นสไตล์การเที่ยวที่ชอบ ผมแนะนำให้ลองมาสัมผัสคุณจะได้รับอะไรๆกลับไปเต็มๆ และจะเป็นทริปที่เป็นส่วนตัวอย่างที่สุด มีความสุขและอิ่มใจอย่างที่สุด ในแบบที่การท่องเที่ยวทั่วไปจะให้คุณไม่ได้
#ติดต่อการเดินทางสู่บ้านผาหมอนและที่พักได้ที่ :
สำหรับที่พักในรีวิวนี้ จะมีทั้งหมด 2 แห่งนะครับ คือ
- โฮมสเตย์บ้านผาหมอน ติดต่อ พี่สิทธิ์ 093-2323583
- Bamboo Pink House ติดต่อ คุณโอ๊ด 081-1664344

เที่ยวเชียงใหม่ช่วงนี้อากาศก็จะประมาณนี้เลยครับ ถึงแม้จะเจอฝนบ้าง ก็ไม่ได้ทำให้้รู้สึกว่าหงุดหงิดรำคาญใจอะไร มีแต่กลับชอบในบรรยากาศที่ชุ่มฉ่ำ และสบายตาแบบนี้

สำหรับจุดหมายปลายทางของผมในทริปนี้ เราจะไปกันที่ ‘บ้านผาหมอน’ ครับ

ที่บ้านผาหมอนนี้เป็นหมู่บ้านเล็กกลางหุบเขา ตั้งอยู่ที่ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านของชาวปกาเกอะญอ ที่เปิดให้มีการท่องเที่ยวสไตล์ชุมชนขึ้น โดยเราจะมาพักกันที่โฮมสเตย์บ้านผาหมอน พักอยู่บ้านหลังเดียวกันกับชาวบ้าน กินนอนอยู่ด้วยกัน ทำกิจกรรมต่างๆ ได้เรียนรู้วิถีชีวิต และได้เที่ยวชมธรรมชาติ นาขั้นไดที่สวยงามมากๆ


โฮมสเตย์บ้านผาหมอน ราคาจะอยู่ที่คนละ 850 บาท เป็นราคารวมที่พักและอาหาร พร้อมกับการพาเดินเที่ยวชมหมู่บ้าน
อย่างที่บอกครับว่าที่นี่จะรับนักท่องเที่ยวจำกัด และอยากเน้นรับคนที่มาพักเป็นคนที่มีใจรักการเที่ยวแนวนี้จริงๆ จึงไม่ได้เปิดกว้างเรื่องการรับนักท่องเที่ยวมากนัก เพื่อคงอะไรหลายๆให้ยังคงเหมือนเดิม และไม่ส่งผลกับวิถีชีวิตชาวบ้านหรือธรรมชาติที่พังเสียหาย รวมไปถึงคนที่มาเที่ยวก็จะได้รับความสุขความประทับใจกลับไป


นี่เลยครับบบ สำหรับการทานข้าว ชาวปกาเกอะญอก็จะนั่งทานล้อมวงกันแบบนี้ แล้วนั่งทานอยู่ด้วยกัน ซึ่งแน่นอนครับ เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ผมเองก็ได้มานั่งล้อมวงไปกับชาวบ้านด้วยเหมือนกัน

นอกจากนี้ชาวบ้านที่นี่ยังมีปลูกกาแฟกันด้วย ก็จะมีคั่วกาแฟเอง อะไรเองทุกขั้นตอนจนกระทั่งชงดื่ม

ไหนก็ไหนๆแล้วววว ผมก็ขอมาลองช่วยพี่สิทธิ์ ผู้ซึ่งเป็นหัวหน้าชุมชนและดูแลเรื่องการท่องเที่ยวชุมชนของหมู่บ้าน มานั่งคั่วกาแฟกันดีกว่า เห็นภาพแล้วก็อย่าเข้าใจผิดดดดด 5555+ นี่เป็นการนั่งเป่าไฟตั้งเตาคั่วกาแฟกันครับ







ส่วนท่านนี้จะเป็นไกด์ท้องถิ่นของหมู่บ้านเช่นกันครับ นี่ก็มาเล่นเครื่องดนตรีท้องถิ่นแล้วร้องเพลงให้ฟังกันด้วย ใครอยากฟังเพลงลองตามไปดูกันได้ในคลิป vdo บ้านผาหมอนนะครับ ผมว่าเป็นเพลงที่เพราะและมีเสน่ห์มากๆ



ต่อไปเราจะไปชมความสวยงามของนาขั้นบันไดที่นี่กันครับ เอาเป็นว่าไม่ต้องไปไหนให้ลึกให้ไกล ไม่ต้องเดินทางด้วยความลำบากยากเย็น ก็สามารถมาสัมผัสบรรยากาศนาขั้นบันไดกันได้ ช่วงนี้เป็นช่วงที่นากำลังเขียวสวยมากๆ อากาศก็สดชื่นมากกก

สำหรับที่พักที่ต่อไป มีชื่อว่า Bamboo Pink House จะเป็นบ้านพักริมทุ่งนา ที่มองไฟแล้วเห็นนาขั้นบันไดเป็นเวิ้งกว้าง คือนึกภาพดูครับว่าถ้าเราลืมตาตื่นขึ้นมาแล้วเจอวิวแบบนี้เป็นวิวแรกตั้งแต่เริ่มกระพริบตา มันคงจะฟินมากกกก
#สำหรับราคาที่พัก รบกวนสอบถามโดยตรงไปยังเบอร์โทรที่แจ้งไว้หน้ารีวิวนะครับ



มุมพักใจไปกับวิวสวยๆ


ต่อไปเราจะไปแวะเที่ยวที่ดอยอินทนนท์กันครับ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านผาหมอน จะได้มาเดินชมสัมผัสธรรมชาติและน้ำตกสวยๆ ที่นี่กัน


ขึ้นมาบนนี้นี่บอกเลยว่า หมอกลอยคลุ้งรอบตัว พัดไปมาตามลมจนผมนี่เปียกหมดเลย 55555+ ตอนแรกก็เข้าใจว่าคือฝน แต่มันไม่ใช่จริงๆแล้วคือหมอกนี่เอ



ป่าไม้ช่วงหน้าฝนนี้อุดมสมบูรณ์มากกก เป็นความเขียว ความชุ่มชื้น ในแบบที่ฤดูอื่นก็ให้ไม่ได้




ส่วนตรงนี้จะเรียกว่า น้ำตกวชิรธารนะครับ มาช่วงนี้น้ำเยอะสวยมากๆๆๆ สัมผัสได้ถึงละอองน้ำที่ลอยมากระทบผิวเรา บรรยากาศดีมากจริงๆ ถือเป็นอีกหนึ่งจุดที่ปิด ทริปเชียงใหม่ของผมได้อย่างประทับใจ

#คนหลงทาง#เที่ยวเชียงใหม่#กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการสนับสนุน#การท่องเที่ยวเชิงภูมิวัฒนธรรม#5เส้นทาง5จังหวัด#รากฐานการพัฒนาสังคมสู่การจัดสวัสดิการระดับพื้นที่#มนต์เสน่ห์การท่องเที่ยวชนเผ่า#การท่องเที่ยวที่ไม่ใช่การท่องเที่ยวแต่เป็นการเรียนรู้ภูมิสังคม