ไม่มีชื่อ…แต่จำขึ้นใจ ที่พักแคมป์ปิ้งเปิดใหม่
ไปฟินแบบไม่รู้จักฉัน ไม่รู้จักเธอ
by : ค น ห ล ง ท า ง x Vivo V17
——
ทริปตีตั๋วพาใจมาสัมผัสลมหนาวที่เชียงใหม่
ของผมในทริปนี้ เอาเป็นว่าเราจะมาทำความรู้จัก
ที่พักเปิดใหม่แห่งนี้กันในนามว่า &lsquoCAMP ไม่มีชื่อ&rsquo
เพราะนี่คือคำที่ใช้เรียกที่พักแห่งนี้จริงๆ…
บางทีการที่เราจะไปที่ไหนสักแห่ง เราอาจไม่จำเป็น
ต้องรู้ว่ามีชื่อเสียงเรียงนามอะไรที่เริ่ดหรูก็ได้
รู้แค่ว่ามาแล้ว &lsquoสบายใจ&rsquo ก็พอ
.
.
ผ่านพ้นปีใหม่มาได้ไม่นาน ถึงแม้ว่าในหลายๆจังหวัด
อากาศจะเริ่มร้อนขึ้นกันบ้างแล้ว และบางจังหวัด
ก็อาจจะหมดช่วงของฤดูหนาวไปรวดเร็วเลยก็ว่าได้
แต่ว่าที่เชียงใหม่นั้น ยังคงมีลมหนาวพัดพามาให้เรา
ได้เที่ยวกันอย่างสุขใจ
.
.
&lsquoCAMP ไม่มีชื่อ&rsquo จะเป็นที่พักแนวแคมป์ปิ้ง
นอนเต็นท์กระโจมสีขาวบนเชิงเขา แต่พิเศษกว่าที่อื่นๆ
ตรงที่มีเต็นท์กระโจมรถ Volkswagen เต่าสุดคลาสสิค
แถมยังเป็นเพียงที่พักเล็กๆ มีแค่ 6 หลังเท่านั้น
บรรยากาศคือสงบ และเป็นส่วนตัวแบบสุดๆ
เรียกว่าพักผ่อนกันในมุมส่วนตัวในพื้นที่ของแต่ละเต็นท์
เลยละครับ เรื่องวิวก็คือดีไม่แพ้กัน ตื่นเช้ามา
ก็จะมีหมอกลอยไปมาอยู่ตรงหน้าที่พัก
ถึงแม้ที่นี่จะไม่ใหญ่โตกว้างขวาง แต่ก็มีมุมฮิปๆ
ให้ได้เดินเล่นถ่ายรูปกันแบบจุใจแน่นอน!
.
.
ซึ่งในทริปนี้นอกจากผมจะมาที่พักที่ทั้งเด็ดและ
โลเคชั่นดีแล้ว ผมก็ยังมีแวะไปเช็คอินที่คาเฟ่
ในโซนแม่ริมอย่าง &lsquoThe Ironwood&rsquo ซึ่งเป็นคาเฟ่
ท่ามกลางสวนอันแสนร่มรื่นสไตล์ยุโรป และยังมี
&lsquoDough Cafe&rsquo ที่เป็นคาเฟ่เล็กๆสีขาวละมุน
สุดมินิมอล สไตล์เกาหลีแบบเดินเข้าไปแล้ว
ฟีลลิ่งความเป็นโอปป้าจะมาเลย
ถึงแม้ว่าหน้าผมจะไม่ค่อยให้ก็ตาม 55555+
.
.
ดูจากสถานที่แล้วบอกเลยว่าเหมาะกับการ
มาถ่ายรูปสวยๆ ด้วย Vivo V17 เป็นที่สุดครับ
เรียกว่ารุ่นนี้มาใหม่แกะกล่องกันเลยล่ะ
เพราะเพิ่งจะเปิดตัวกันไปได้ไม่นาน มาพร้อมกับ
เลนส์ Wide ให้ได้ถ่ายรูปเก็บวิว อลังการกัน
แบบเต็มตา ตามไปดูกันเลยดีกว่าครับว่าทริปเชียงใหม่
ของผมจะชวนฟินแค่ไหน รับรองว่าเห็นรูปแล้วจะต้อง
อยากหาเวลาไปนั่งสัมผัสลมหนาวกันแน่ๆ
เข้าชมข้อมูล Vivo V17 เพิ่มเติมได้ที่ :
https://www.vivo.com/th/products/v17
——
— รายละเอียดที่พัก
+ มีเต็นท์ทั้งหมด 6 หลัง นอนได้ตั้งแต่ 2-4 คน
แบบที่เป็นเต็นท์บนรถเต่า นอนได้ 2 คน น้ำหนักรวม
ไม่เกิน 150 kg. เหมาะกับคนตัวเล็กๆหน่อยจะนอนได้
+ หลังที่ผมพักคือ Camp No.4 นะครับ
+ ราคาจะเริ่มต้นที่ 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับเต็นท์แต่ละแบบ
ซึ่งราคานี้รวมอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว
+ มื้อเย็น จะมีอาหารตามสั่งเป็นเมนูทานง่ายๆ แล้วก็มี
ชุดบาร์บีคิว และหมูกระทะ
+ ไม่มีทีวี ไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลม เน้นพักง่ายๆ ชิลล์กับ
บรรยากาศ อากาศเย็นนอนหลับสบาย
+ ห้องน้ำรวมนะครับ แต่ห้องน้ำดี และสะอาดมากๆๆ
มีน้ำอุ่นให้อาบ
— ติดต่อสอบถาม-จองที่พัก
Fanpage >> https://www.facebook.com/campmaimeechue
พิกัด >> https://goo.gl/maps/M7ntNEgMdTdVvFLF8
สำหรับทริปนี้ เราจะเน้นเที่ยวกันในเส้นแม่ริมนะครับ คือระหว่างทางเข้าไปที่พักเนี่ยจะมีจุดแวะเที่ยวเยอะแยะเลยแหละ แต่ผมจะขอไปแบบเน้นๆ ว่าอันนี้แหละไฮไลท์ที่อยากให้มากัน ก็จะเป็นคาเฟ่สวย 2 สไตล์ มาแล้วเหมือนได้เที่ยว 2 ทวีป ได้ทั้ง Mood แนวยุโรปและเกาหลี ไม่อยากพูดเยอะครับ เตรียมกล้องมือถือ Vivo V17 ไว้ให้พร้อม รับรองว่า Shutter ลั่นรัวๆแน่นอน
ซึ่งที่แรกที่ผมแวะไปก็คือ ‘The Ironwood’ ที่นี่จะเป็นทั้งคาเฟ่และร้านอาหาร บรรยากาศคือเกินเรื่องมากกกกก เหมือนหลุดออกมาจาก Pinterest !!!
สถานที่คือรายล้อมไปด้วยต้นไม้ อบอวลไปด้วยความเป็นสวนสวยสไตล์ยุโรป แต่มีกลิ่นอายความเป็นวินเทจแทรกอยู่ในหลายมุมของร้าน เอาง่ายๆ เดินเข้ามาที่แรกผมก็ Shutter ลั่นไปเยอะเลยครับ บรรยากาศคือชอบมากกกกจริงๆ 
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง
มุมนี้จะเป็นบริเวณเรือนกระจกที่ด้านในจะเป็นเรือนต้นไม้ สะท้อนรับแสงอันอบอุ่นในยามเช้า มองดูแล้วบรรยากาศเหมือนต่างประเทศเลยใช่มั้ยครับบบบบ
ซึ่งตรงจุดนี้ตอนที่ผมถ่าย จะเป็นการถ่ายภาพแบบย้อนแสงนะครับ หลายคนอาจจะกังวลว่าถ่ายย้อนแสงแล้วจะได้ภาพออกมาไม่สวย ได้ภาพมืดๆ ต้องตั้งค่ายังไงทำไม่เป็น…. คือถ้าใช้ Vivo V17 แล้วก็ไม่ต้องกังวลเลยครับ ถ่ายง่ายๆด้วยโหมด Auto และเปิดฟังก์ชั่น HDR เพิ่ม คือจบ!! กดถ่ายได้เลย ง่ายมั้ยละ 55555+ ได้ภาพสวยออกมาแบบนี้เลยผมพูดจริงๆ เพราะว่า HDR จะช่วยเปิดส่วนมืดให้สว่างพอดี ปรับแสงของภาพให้ออกมาดูสมดุล ที่เหลือก็ปรับใส่ Filter ในโทนที่ชอบได้เลย…บอกเลยว่าจะถ่ายรูปออกมาสวยไม่จำเป็นต้องเป็นช่างภาพมืออาชีพก็ทำได้นะครับ 
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง เปิดโหมด HDR
ภายในเรือนกระจกที่มีต้นไม้ต้นเล็กๆอยู่ด้านใน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นต้นกระบองเพชรน่ารักๆ
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
ความพิเศษของ Vivo V17 คือมาพร้อมกับกล้องหลังทั้งหมด 4 เลนส์เลยละครับ ซึ่งก็จะมีเลนส์หลัก ที่มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รวมทั้งเลนส์ Super Wide-Angle, เลนส์ Macro และเลนส์ Bokeh อย่างเจ้าต้นกระบองเพชร ป้อมๆ สั้นๆ น่ารักน่าเอ็นดูต้นนี้ ผมก็ถ่ายด้วยเลนส์ Bokeh เพื่อให้ได้ภาพหน้าชัดหลังเบลอแบบนี้ครับ
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์ Bokeh
ผมว่าเราไปเดินเล่นดูบรรยากาศรอบๆกันดีกว่า มีมุมถ่ายรูปเยอะมากๆ และส่วนใหญ่ผมก็จะใช้เลนส์ Super Wide-Angle ในการเก็บภาพ เพื่อให้ได้มุมมองออกมาที่ครบสวยจบในภาพเดียว มุมนี้คือเหมาะกับการมานั่งจิบชา Afternoon tea เหมือนนั่งอยู่ในสวนต่างประเทศ
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
ที่นั่งก็จะมีทั้งโซน indoor และ outdoor เลยนะครับ
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
ที่นี่ก็จะมีเมนูเครื่องดื่มร้อน/เย็น ให้เลือกหลากหลาย รวมทั้งของหวานต่างๆที่ทำเอง นอกจากนี้ก็จะมีเมนูอาหารจานหลัก สำหรับใครที่อยากมาฝากท้องก็มาลองกันได้
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง
ทาสแมวถูกใจสิ่งนี้ครับ 55555+ ที่นี่จะมีบ้านแมวด้วยนะ นอนกลิ้งกันไปมาน่าเอ็นดู
——
ภาพบนถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
ภาพล่างถ่ายด้วย เลนส์ Bokeh
ส่วนมุมนี้จะอยู่ทางด้านใน ซึ่งเป็นโซนของเก่าที่เจ้าของร้านเค้าสะสมไว้ครับ ของแต่ละชิ้นที่ได้มาก็เรียกว่ามี Story นะครับ ไม่ใช่ว่าถูกเอามาตั้งไว้เฉยๆ แล้วเอามาตกแต่งรวมกันเหมือนเป็นบ้านชาวยุโรปเลย
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
——
ภาพบนถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง
ภาพล่างถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
เอาละครับ…หลังจากที่เราเที่ยวคาเฟ่ท่ามกลางสวนสวยสไตล์ยุโรปกันไปแล้ว ต่อไปเราจะขอข้ามฝั่งทวีปมาโซนเกาหลีกันบ้างงงงที่ ‘Dough Cafe’ ร้านเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ริมทางถนนเส้นแม่ริม แถวๆร้านอาหารที่นั่งทานกันริมน้ำเยอะๆนั้นเลยครับ ขับมาคือเด่นสะดุดตาเลย เพราะเป็นสีขาวละมุนๆ อยู่ร้านเดียว
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
ข้างในคือสไตล์ Minimal เลย ดูอบอุ่นในทุกๆมุม และทุกๆรายละเอียด ถ่ายรูปออกมาคือได้ความคลีนสุดๆ ใครที่เป็นสาย IG คุมโทนต้องมานะบอกเลยยยย
——
ภาพบนถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
ภาพล่างถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง
ตรงข้างๆร้าน ก็จะมีลานเล็กๆ ที่จัดเป็นที่นั่งโซน Outdoor และมุมถ่ายรูปที่เซ็ทบรรยากาศแคมป์ปิ้งที่สาวๆน่าจะต้องชอบกันแน่ๆ แต่เเหม…ด้วยความหน้าหนวดอย่างผม จะให้เป็นแบบถ่ายกับมุมมุ้งมิ้งตรงนี้ให้ทุกคนดูก็กระไรอยู่ 555555+ เอาเป็นว่าถ้าสาวๆคนไหนแวะไป ก็แต่งตัว เตรียมพรอพแนวโบฮีเมียนหวานๆ ไปถ่ายรูปคู่กับมุมแคมป์ปิ้งได้เลย
——
ภาพบนถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
ภาพล่างถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง
หลังจากที่ตะลอนๆ แวะเที่ยวคาเฟ่ไปตามทางแล้ว ก็ได้เวลาที่ผมจะไปเช็คอินที่พักกันแล้วแหละ ว่าแล้วก็ขับรถมุ่งหน้าไปที่ ‘CAMP ไม่มีชื่อ’ กันเลยครับ ที่นี่จะให้เช็คอินได้ตอนบ่าย 3 และเช็คเอาท์ไม่เกินเที่ยง
มาถึงคือเห็น Volkswagen เต่าแล้วใจคอไม่ดีเลย 555555+ ใส่เต็นท์ข้างบนแบบนี้แล้วน่ารักจริงๆ แอบเข้าไปดูตาม IG ฝรั่งบ่อยๆ ก็ได้มาเห็นสมใจ แถมยังมีจัดมุมนั่งเล่นไว้ข้างๆรถด้วย ได้บรรยากาศมากกกก
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
สำหรับเต็นท์บนรถเต่า จะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 หลังนะครับ อีก 4 หลังที่เหลือจะเป็นเต็นท์กระโจมทั้งหมด ที่พักคือบรรยากาศดี นั่งเล่นหน้าเต็นท์คือลมพัดเย็นสบาย
——
ภาพบนถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
ภาพล่างถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง และ Zoom 2X
ต่อไปเรามาดูหลังที่ผมจองกันไว้ดีกว่า หลังนี้คือ CAMP No.4 นะครับ จะนอนได้ประมาณ 2-3 คน ข้างในคือกว้างเลยนะครับ แบบลุกขึ้นยืนเดินได้เลย มีพื้นที่พอเหมาะพอดี ข้างในเต็นท์ก็จะมีน้ำ มีผ้าเช็ดตัว มีปลั๊กไฟให้ครบ
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
วิวตรงบริเวณหน้าที่พัก ก็เห็นมีอาคารอะไรอยู่ไกลๆ ขอลองใช้ Vivo V17 ซูมดูสักหน่อย ซูมมาได้ใกล้ขนาดนี้ภาพก็ยังชัดอยู่นะครับ
——
ถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง
ภาพแรก : ระยะปกติ
ภาพสอง : Zoom 2X
ภาพสาม : Zoom 5X
พอเริ่มตกเย็น ก็จะมีเปิดไฟปิงปองส้มๆรอบที่พักให้บรรยากาศแบบ Cozy ดูน่ารักไปอีกแบบ ช่วงเย็นในยามที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้วแบบนี้ ก็อาจจะทำให้แสงน้อย แต่เราก็ถ่ายภาพออกมาให้สวยได้ด้วยการใช้ Super Night Mode หรือถ้าใครที่อยากถ่ายภาพกับไฟกลางคืน ก็เปิดใช้งานโหมด Bokeh ได้เลยครับ จะได้ละลายไฟข้างหลังสวยๆ แบบนี้
——
ภาพบนถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
ภาพล่างถ่ายด้วย เลนส์ Bokeh
ภายในเต็นท์จะมีไฟแบบนี้ตกแต่งไว้ข้างในด้วยน๊าาา ตอนกลางคืนก็เปิดสร้างสีสันกันหน่อย
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง
มื้อเย็นที่นี่จะมีทั้งอาหารตามสั่ง ที่จะเน้นเป็นเมนูทานง่ายๆ หรือจะสั่งเป็นชุดบาร์บีคิวมาปิ้งย่างกัน แต่ถ้าใครที่ชอบแบบล้อมวงกินหมูกระทะก็มี หลังจากกินอิ่มนอนหลับก็เตรียมตัวมาเจอวิวสวยๆในตอนเช้ากันได้เลย
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง
ตื่นเช้ามา เปิดเต็นท์ออกไปก็เจอบรรยากาศฟินๆแบบนี้เลย หมอกกำลังมาละครับ พระอาทิตย์ก็ขึ้นตรงข้างหน้าที่พักพอดี
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
มุมนั่งเล่นหน้าเต็นท์คือเหมาะกับการมานั่งจิบกาแฟชมวิวมากๆ
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
มาเดินถ่ายรูปเล่นเก็บภาพที่พักยามเช้ากันดีกว่า…
——
ภาพบนถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
ภาพล่างถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง
——
ภาพบนถ่ายด้วย เลนส์ Bokeh
ภาพล่างถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง ระยะ Zoom 2X
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง ระยะ Zoom 2X
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง
ลำแสงที่สะท้อนกับหมอกยามเช้าคือสวยมากๆ
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง
เดินถัดลงมาด้านล่างหน่อย ก็จะมีมุมที่จัดไว้สำหรับถ่ายรูปด้วย
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
ตรงนี้ตอนกลางคืน ก็จะเป็นลานนั่งผิงไฟกัน ส่วนยามเช้าก็มานั่งล้อมวงจิบกาแฟได้
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
ถึงจะเป็นแค่ที่พักเล็กๆ แต่บรรยากาศไม่เบาเลยล่ะ ผมชอบตรงที่มีความเป็นส่วนตัวมากกก ด้วยความที่เต็นท์มีเพียงแค่ไม่กี่หลัง จำนวนคนเข้าพักก็จะไม่เยอะแยะวุ่นวาย เราจะได้เต็มอิ่มกับทุกอย่างรอบตัวจริงๆ
——
ภาพบนถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
ภาพล่างถ่ายด้วย เลนส์หลักของกล้อง
ก่อนจะกลับขอลอง Selfie ด้วยกล้องหน้ากันหน่อย ภาพออกมาคมชัดถูกใจ และด้วยความที่ Vivo V17 เป็นกล้องแบบ Ai ก็จะปรับแสงให้ออกมาดูดีอัตโนมัติเลย กล้องดีแค่ไหนดูเอาครับ นี่ก็เป็น ค น ห ล ง ท า ง อยู่ดีๆ ถ่ายออกมาเป็นแบมแบม Got 7 เฉยยยย จะเกาหลีเกินไปแล้วววว 55555+
——
ภาพนี้ถ่ายด้วยกล้องหน้า ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
เป็นยังไงกันบ้างครับกับทริปเชียงใหม่ และที่พักบรรยากาศแนวแคมป์ปิ้งของผมในทริปนี้ มาแค่ตัวกับหัวใจและ Vivo V17 เครื่องเดียว ก็ปิดทริปไปแบบประทับใจสุดๆ คิดถึงลมหนาวทีไร…ก็พาใจให้คิดถึงเชียงใหม่ทุกที…
——
ภาพนี้ถ่ายด้วย เลนส์ Wide-Angle
#คนหลงทาง #เที่ยวเชียงใหม่ #ที่พักเชียงใหม่
#VivoThailand #VivoV17