นี่ก็ได้เวลาที่เราจะต้องออกไปสัมผัสความสวยงาม
ของภาคเหนือกันให้ฉ่ำใจแล้วววว ครั้นจะให้รอจนถึง
ปลายปี รอเที่ยวแค่ตอนหนาวๆมันก็ออกจะนานไปหน่อย
แค่นี้ก็อดใจไม่ไหวแล้วจริงๆ
คิดถึงความเขียว
คิดถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่สัมผัสได้
คิดถึงหมอกที่ลอยคลุ้งไปมา
คิดถึงอากาศดีๆ ที่แค่ค่อยๆ หายใจ ก็รู้สึกได้ถึง
ความสดชื่นทั้ง #5สัมผัสแห่งความสดชื่น
เมื่อผมตัดสินใจขอแบกเป้ไปแอ่วเจียงใหม่กันในหน้าฝน
ตอนแรกก็ลังเลคิดอยู่นานนนน…นนนน ว่าจะไปไหนดีนะ
เพราะสถานที่เที่ยวส่วนใหญ่หลายๆคนก็คงเคยไปและ
รู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ผมจึงอยากหาที่ใหม่ๆ
อยากไปที่ๆยังไม่ค่อยมีใครนำมาเล่าเรื่องกันสักเท่าไหร่
และแล้ว…ผมก็ไปสะดุดตากับคำว่า ‘เ เ ม่ อ า ย ส บ า ย ดี’
จากเพจ #ที่นี่แม่อาย จึงทำให้ผมฉุกคิดได้ว่า นานมาแล้ว
ผมเคยเห็นภาพของวัดท่าตอนที่เหมือนลอยอยู่กลางทะเลหมอก
ซึ่งเป็นภาพที่ยังคงอยู่ในความทรงจำมาจนตอนนี้
แต่ก็ยังไม่เคยมีโอกาสได้ไปสัมผัสสักที วันนี้จึงถือเป็นโอกาสที่ดี
ที่ผมจะขอไปตะลอนๆ อยู่ในอำเภอเล็กๆ
ที่มีชื่อว่า #แม่อาย กันสักครั้ง
แน่นอนครับว่าหลายๆคน
ล้วนรู้จักอำเภอนี้มาจากละครเรื่อง ‘แม่อายสะอื้น’
ซึ่งผมจะขอพาทุกคนไปแอ่วแม่อายแบบไร้เสียงสะอื้น
และมีอะไรดีๆมากกว่าที่เคยเห็นในละคร แต่กลายเป็น
อำเภอที่เปี่ยมไปด้วยความสุขและรอยยิ้ม…

สำหรับการเดินทางไปเชียงใหม่ของผมในครั้งนี้ ก็เลือกใช้บริการของสายการบิน AirAsia กันครับ เพราะให้ความสะดวกด้วยเที่ยวบินมากสุดสู่เชียงใหม่ จากกรุงเทพฯ 13 เที่ยวบินต่อวันและ เส้นทางบินข้ามภาคจาก อีสาน ใต้ และตะวันออก อีก 7 เส้นทางบิน
ยิ่งช่วงหน้าฝนแบบนี้ทาง AirAsia เค้าชวนให้เรามาเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ได้เที่ยวเหนือในหน้าฝนแบบฉํ่าใจ ไปสัมผัสภาคเหนือในมุมมองใหม่ กับตั๋วราคาประหยัด และมอบสิทธิพิเศษ เพียงแสดง boarding pass รับส่วนลด ณ โรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่ และสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมรายการ : goo.gl/vKFGGB
ใครสนใจตั๋วเครื่องบินราคาประหยัด ก็ไปจองกันเลย : http://bit.ly/2LNFoqT


ได้เวลาที่เราต้องออกเดินทางกันละครับ นั่งเครื่องแปปเดียวไม่กี่อึดใจ เราก็เปิดวาร์ปมาถึงเชียงใหม่กันแล้ว

เมื่อมาถึงสิ่งแรกที่ควรต้องทำก็คือการเช่ารถให้เรียบร้อย เพราะการเที่ยวเชียงใหม่ ผมว่าควรจะหาเช้ารถไว้สักคันเพื่อความสะดวกในตระเวนไปให้ทั่ว และแวะเที่ยวได้ตามใจเรา
สำหรับทริปนี้ผมก็เลือกใช้บริการรถเช่าจาก #Drivehub ซึ่งมีให้บริการทั่วประเทศมากกว่า 30 จังหวัด จองเองได้ง่ายมากๆครับ ค้นหารถเช่าราคาถูกได้ด้วยขั้นตอนเพียงไม่กี่คลิก จองผ่านเว็บไซต์กันได้เลยที่ www.drivehub.com ซึ่งเมื่อจองแล้วผมก็ทำการนัดแนะรับรถจากสนามบินเชียงใหม่ได้เลยครับ
ซึ่งเรื่องการบริการมีมาตรฐานเชื่อใจได้ หากก็เกิดเหตุฉุกเฉิน หรือรถมีปัญหา ก็มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล และที่สำคัญเลยคือ ‘ไม่ต้องมีบัตรเครดิต’ ก็เช่ารถได้นะครับบบบ สามารถมาชำระได้ในวันเดินทางเลยไม่มีมัดจำล่วงหน้า ถือเป็นบริการรถเช่าดีๆจากคนไทย ที่ช่วยให้การเดินทางของเราสะดวกสบายขึ้น และง่ายขึ้นมาก
#สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Fanpage >> Drivehub เช่ารถ ราคาถูก ไม่ต้องใช้บัตรเครดิต

เอาละครับก่อนอื่นก็ต้องขอแนะนำให้รู้จักกับ ‘พี่วุธ’ ซึ่งเป็นแอดมินเพจ #ที่นี่แม่อาย นั้นเอง
ก่อนผมจะเดินทางมาก็ได้มีทักไปพูดคุยขอแนะนำในการจะมาเที่ยวแม่อาย พอมาถึงพี่วุธก็ใจดีมากๆครับ มาให้คำแนะนำ แล้วก็เป็นไกด์ท้องถิ่นให้ผมด้วย
ได้เวลาเราที่เราจะออกไปไปตามหาจุดเช็คอินต่างๆให้ทั่วแม่อายกันแล้ว พร้อมแล้วก็คว้ากล้องแล้วเริ่มกันเลยยย!

01 : วัดท่าตอน
——
สถานที่แรกที่ผมต้องขอพูดถึงก่อนเป็นสถานที่แรก ก็คงต้องเป็นที่ #วัดท่าตอน แห่งนี้เลยครับ
เพราะจุดนี้คือแรงบันดาลใจในการออกเดินทางของผมในทริปนี้ เป็นวัดที่ตั้งอยู่ไหล่เขา วิวรอบๆก็สวยงามมากๆ เห็นภูเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนกันไปเป็นมิติ
วัดท่าตอนนี้มีพื้นที่ที่กว้างขวางมากครับ โดยจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 9 ชั้น โดยแต่ละชั้นก็จะมีจุดให้แวะกราบไหว้โดยจะไล่ตั้งแต่ล่างสุดไปจนถึงยอดเขาเลยครับ
ชั้นที่ 1 เจดีย์พระธาตุ
ชั้นที่ 2 เจ้าแม่กวนอิมและหุบเขาเซียน
ชั้นที่ 3 อุโบสถ
ชั้นที่ 4 พระสังกจาย
ชั้นที่ 5 พระพุทธนิรันดร
ชั้นที่ 6 พระปางนาคปรก
ชั้นที่ 7 อาคารรุ่งนิรันดร์
ชั้นที่ 8 พระบรมธาตุรัชมังคลาจารย์สมานฉันท์
ชั้นที่ 9 อาคารแปดเหลี่ยม
ที่นี่ถือเป็นวัดที่เป็นสัญลักษณ์ของอำเภอเเม่อายเลยก็ว่าได้ หากใครมีโอกาสอยากให้ได้มาชมความสวยงามของวัดท่าตอนจริงๆ ยิ่งถ้าตอนเช้าๆ ในยามหน้าฝนแบบนี้ ถือเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยมากๆจุดหนึ่งของเชียงใหม่เลย…





02 : วิวระหว่างทาง
——
เมื่อความสวยงามของธรรมชาติ ไม่ได้มีเพียงแค่ที่จุดหมายปลายทาง แต่ตลอดสองข้างก็สวยงามมากไม่แพ้กัน หลังจากที่ผมขับออกมาจากวัดท่าตอนก็ตั้งใจว่าจะขับรถเล่นชมวิวไปเรื่อย ก็เลยได้พบกับวิวแบบนี้


03 : ตลาดท่าตอน
——
เพราะวิถีชีวิต มักจะอยู่คู่กับตลาดในแต่ละชุมชน คือไม่ว่าผมจะไปเที่ยวที่ไหนก็ตามผมมักจะชอบไปเดินเล่นที่ตลาดในทุกๆพื้นที่เพื่อสัมผัสกับความเรียบง่ายของชาวบ้าน
ไปซึมซับความเป็นอยู่ของผู้คน แล้วดูบรรยากาศวิวภูเขาด้านหลังสิครับ มาหน้าฝนแบบนี้ก็จะมีหมอกลอยไปลอยมา แล้วจะมานั่งรอเที่ยวแต่ตอนฤดูหนาวสิ้นปีจริงๆเหรอ 5555+


วิวของวัดท่าตอน ที่มองเห็นได้จากตลาดท่าตอนกันเลย

04 : จุดชมวิวยะโบ่
——
ถือว่าเป็นจุดกางเต๊นท์-ชมวิวเเห่งใหม่ เหมาะมากครับ สำหรับการมานอนกางเต็นท์ชมหมอก ตั้งอยู่ที่บ้านมูเซอดอยแหลม
ที่นี่มีจะมีเต๊นท์และเครื่องนอนให้เช่าด้วยนะครับ สำหรับใครที่นำมาเอง ก็มีค่าใช้จ่ายแล้วแต่จะบำรุงสถานที่ มีห้องน้ำ มีเจ้าหน้าที่ดูแลคอยอำนวยความสะดวก
สำหรับการเดินทางไปยังจุดชมวิวยะโบ่ให้ใช้เส้นทางขึ้น #หน่วยจัดการต้นน้ำขุนแม่กก ขับต่อไปอีกประมาณ 1 กิโลเมตรก็จะถึงจุดชมวิว
ติดต่อสำรองจุดกางเต๊นท์ที่ 081-0273331 (พ่อหลวงยุทธ) 096-2021404 (คุณวี)




05 : White House in the garden
เปิดทุกวัน 8.30-19.00 น.
(ยกเว้นวันจันทร์เปิด 10.30 น. และวันอาทิตย์ เปิด 12.30 น.)
**แผนที่ร้านอยู่ใต้ comment
——
ฟังแค่ชื่อก็หลงรักแล้วครับที่นี่ ยิ่งถ้าได้มาเห็นบรรยากาศจริงๆ จะยิ่งชอบเข้าไปอีก White House in the Garden เป็นคาเฟ่เล็กๆ น่ารักๆ ภายใต้บ้านสีขาวทั้งหลังในอำเภอแม่อาย
แค่เดินเข้าไปเนี่ย ลืมไปเลยนะว่าอยู่ประเทศไทย บรรยากาศอบอุ่นมากกก โทนสีขาวของบ้าน เข้ากันได้กับสีเขียวของธรรมชาติรอบๆที่แสนชุมฉ่ำในยามหลังฝน และตัดกันดีกับสีน้ำตาลของไม้ แบ่งโซนให้นั่งเล่นพักผ่อนได้อย่างลงตัว มีระเบียงชั้นบนให้นั่งรับลมชมวิวกันด้วย




06 : โฮมสเตย์บ้านปู่หมื่น
——
สถานที่ต่อไปผมจะขอพาทุกคนไปสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวลาหู่กันบ้าง สำหรับใครที่ชอบเที่ยวสไตล์ชุมชน กินอยู่ง่าย และอยากตื่นมาได้พบธรรมชาติและหมอกสวยๆในหน้าฝนแบบนี้ ก็สามารถมาพักที่ #โฮมสเตย์บ้านปู่หมื่น กันได้ครับ
มาที่นี่นอกจากจะได้เจอกับอากาศดีเย็นสบายแล้ว ก็ยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายอย่างเช่น น้ำตก หรือไร่ชา ดอยผ้าห่มปก และโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ เหมาะกับการมานอนค้างสัก 2 วัน 1 คืน สำหรับทริปที่ดอยปู่หมื่นแห่งนี้


มาครับ มาเดินเก็บชากันหน่อยยยยยย

‘น้องวี’ ไกด์ท้องถิ่นแห่งดอยปู่หมื่นในทริปนี้ครับ น้องเป็นเด็กรุ่นใหม่ ที่เรียนจบวิศวะมาหมาดๆ และตั้งใจอยากกลับมาพัฒนาหมู่บ้าน
ได้ยินแล้วผมนี่ชื่นนนนนใจแทนชาวบ้านจริงๆ ที่มีลูกหลานรักบ้านเกิดแบบนี้

07 : น้ำตกปู่หมื่น
——
ในฤดูที่มีฝนตกพอให้ชุ่มฉ่ำใจแบบนี้ บอกเลยว่าเหมาะมากครับสำหรับการเดินทางไปเที่ยวน้ำตก เพราะไม่ต้องกลัวว่าไปแล้วเจอสภาวะน้ำแห้งงงงจนเหลือแต่หิน เที่ยวน้ำตกช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาที่น้ำตกสวยยยยยที่สุดนะครับบบบ
บางคนกลัวว่าไปน้ำตกหน้าฝนอันตรายมั้ย ?
คือถ้าเป็นน้ำตกขนาดเล็ก ไปจนถึงขนาดกลางๆ และไม่ใช่น้ำตกที่อยู่ในป่าลึก จนต้องเดินเข้าไปหลายกิโลกว่าจะถึง
ฤดูนี้จริงๆเป็นฤดูที่เหมาะกับการเที่ยวชมน้ำตกมากๆ แต่อาจจะต้องพ่วงด้วยการดูพยากรณ์ล่วงหน้าสักหน่อย ถ้าฝนตกเล็กๆน้อยๆ อันนี้ไม่ใช่อุปสรรคเลยครับ
ยกเว้นถ้ามีข่าวมรสุมมา อันนั้นคือไม่ใช่แค่น้ำตกนะ แต่ไม่ว่าที่ไหนก็ตาม ไม่ว่าจะป่าเขา หรือทะเล ถ้ามรสุมเข้าอย่างหนักหน่วงแบบนั้นก็คงไม่เหมาะกับการออกไปไหนทั้งนั้น
สำหรับน้ำตกปู่หมื่นนี้ จะอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกับหมู่บ้านปู่หมื่นเลยครับ เมื่อถึงน้ำตกแล้วก็เดินเท้าเข้าไป 300 เมตร เป็นน้ำตกที่มีลักษณะเหมือนงวงช้าง ฟุ้งกระจายกระทบหินเป็นละอองปะทะหน้าคือสดชื่นมาก และเป็นน้ำที่ไหลมาจากดอยฟ้าห่มปกนั่นเอง



08 :หมู่บ้านชาวเขา นานาเผ่า
——
ต่อไปเราจะมาแวะเที่ยวกันที่หมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวกันครับ สถานที่นี้มีชื่อว่า ‘บ้านใหม่พัฒนา (นานาเผ่า)’
ที่นี่ยังคงมีวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวเขาอยู่รวมกันถึง 5 ชนเผ่า มีของฝากของที่ระลึกขาย หรือถ้าใครชอบแนวแบบว่าใส่ชุดพื้นเมืองถ่ายรูปสวยๆ ก็มีให้เช่าใส่กันด้วยนะครับ
เปิดให้เข้าชม 07.00-17.00 น. ตั้งอยู่ที่ บ้านเมืองงาม ต.ท่าตอน




9 : แม่น้ำกก
——
ที่ใดมีแม่น้ำ ที่นั่นย่อมมีวิถีชีวิต ไปบ้านเมืองไหนก็อยากให้ลองไปเดินเล่นลัดเลาะริมแม่น้ำกันดู ด้วยความที่ท่าตอนเป็นชายแดนที่อยู่ติดกับพม่าเลยครับ จึงมีแม่น้ำกกเป็นแนวพรมแดน และมีต้นกำเนิดมาจากภูเขาที่เชียงตุง ในรัฐฉานของพม่ากันเลย
สำหรับกิจกรรมที่น่าสนใจ คือการล่องเรือ หรือล่องแพชมแม่น้ำกก ซึ่งสามารถนั่งข้ามจังหวัดไปจนถึงเชียงรายเลยก็ยังได้ มาช่วงหน้าฝนนี่ดี๊ดีนะครับ น้ำในแม่น้ำปริมาณกำลังดี ไม่แห้งผาก บรรยากาศสวยงามจริงๆ




10 : บ้านศิลป์สัมพันธ์ Art Gallery
——
ต่อไปเรามาเปลี่ยนแนวเป็นเที่ยวชม Art Gallery กันบ้าง ถึงแม่ที่นี่จะเป็นอำเภอที่หลายคนอาจจะมองผ่านๆเหมือนไม่น่าจะมีอะไร แต่บอกเลยว่ามีที่เที่ยวทุกแนว!
ที่ ‘บ้านศิลป์สัมพันธ์’ ถือเป็น Art Gallery เล็กๆ น่ารักๆ ที่รวมรวมผลงานของศิลปินชาวแม่อาย ‘สัมพันธ์ สุภาแดง’ สามารถเข้าไปแวะชมผลงานศิลปะกันได้ ซึ่งก็จะเป็นศิลปะแบบไทยๆ ที่ผสมผสานความเป็นล้านนาลงไป ที่สำคัญเข้าชมฟรีนะครับบบบ



11 : พระธาตุแสงรุ้ง
——
‘วัดพระธาตุแสงรุ้ง’ หรือชื่อเดิมคือ วัดป่าดอยกองมู เดิมทีเป็นวัดร้างเก่าแก่มีอายุกว่า 1400 ปี ถือเป็นวัดสำคัญอีกวัดนึงของแม่อายเช่นกันครับ
โลเคชั่นของวัดก็ตั้งอยู่ที่บนเขาเลยครับ คือถ้ามาถูกที่ถูกเวลา หมอกนี่ก็ลอยฟูฟ่องล้อมเจดีย์สีขาวทองจนมองเเล้วเหมือนอยู่ในสวรรค์




12 : ร้านขายของฝาก ณ ท่าตอน
——
ร้านขายของฝากเล็กๆ ในเมืองแม่อายอย่างร้าน ณ ท่าตอน ตั้งอยู่ติดกับ ร.ร.อนุบาลประกายดาว มีมุมน่ารักๆ ให้มาแวะเช็คอินถ่ายรูปหลายมุม
สีสันภายในร้านก็ดูสดใส มาที่นี่นอกจากจะมีของฝากติดไม้ติดมือกลับไป ก็ยังมีเครื่องดื่มชื่นใจๆ ขายให้ได้ดื่มดับกระหายกัน





13 : เจ้าแม่มะลิกา
——
วีรสตรีแห่งแม่อาย อนุสาวรีย์เจ้าแม่มะลิกา ถือว่าเป็นโบราณสถานศักดิ์สิทธิ์และเป็นอีกหนึ่งตำนานของเมืองแม่อายที่เล่าสืบต่อกันมาและขึ้นชื่อในเรื่องของการยิงธนูและยกไพร่พลสตรีผู้เก่งกล้าเข้าต่อสู้กับพม่า และคือผู้ที่เป็นที่มาของชื่ออำเภอแม่อาย

14 : บ้านหมอกเปา
——
จุดนั่งเล่นพักผ่อนริมน้ำท่ามกลางความร่มรื่นและความเขียวขจีของธรรมชาติที่ ‘บ้านหมอกเปา’ ผ่านมาแถวนี้คือถ้าอยากจะมานั่งชิลล์ หรือเล่นน้ำให้ชื่นใจก็ได้ เป็นมุมเงียบๆที่เป็นส่วนตัวมากครับ มีสะพานไม้ให้ได้นั่งพักฟังเสียงน้ำไหล
การเดินทางไปยังบ้านหมอกเปา ให้เข้าซอยแม่สาวซอย 4 ขับรถผ่านฝายแม่สาวไป จะมีป้ายบอกทางเป็นระยะ


15 : บ้านเล็กในป่าใหญ่
——
สถานที่ต่อไปเราจะขอแวะไปที่ ‘โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่’ ณ ดอยฟ้าห่มปก ตั้งอยู่ที่หน่วยจัดการต้นน้ำดอยผาหลวง เขตอุทยานแห่งชาติแม่ฝาง
เป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อให้คนได้อยู่กับป่าอย่างยั่งยืน คอยดูแลรักษาป่าต้นน้ำและปลูกป่าเพื่อประโยชน์การใช้สอยของคนในชุมชน เหมาะสำหรับการมาเที่ยวแบบได้ประโยชน์ ได้ความรู้เรื่องต้นน้ำและการเกษตร ถือเป็นอีกหนึ่งจุดควรมาแวะชมกัน




16 : : บ้านไร่ชายแดน
——
มาครับ เดินไปเดินมาท้องร้องกันหรือยังงงงง ได้เวลาหาที่ทานข้าวในร้านบรรยากาศดีๆกันแล้ว ร้านที่จะแนะนำในวันนี้คือ #ร้านบ้านไร่ชายแดน ที่เจ้าของร้านชื่อ ‘แดน’ หนุ่มวิศวะกรคนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่ขอลาออกจากงานประจำมาทำตามฝัน และทุกวันนี้ฝันของเค้าเป็นรูปเป็นร่างและเป็นสถานที่ในฝันของใครหลายคน
กับร้านอาหารบรรยากาศดีๆ ออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากสไตล์บ้านไร่ แต่ผมว่าบางมุมก็แอบได้ feeling บ้านต้นไม้อยู่เหมือนกัน บอกตรงๆว่าชอบบรรยากาศมากกกกกครับ คือมากลางวันก็สวย กลางคืนก็มีเสน่ห์ คือสองเวลาก็ให้อารมณ์ที่แตกต่างแต่รับรองว่าน่าประทับใจไม่ว่าจะมายามใดก็ตาม



วิวทุ่งนาสวยๆ ที่มองเห็นหยดน้ำบนหญ้าในยามหน้าฝน ที่สำคัญเลยคือหลังฝนตกหมอกก็จะลอยขึ้นมาในทันใด
คือถ้าได้มานั่งทานข้าวแล้วมองวิวแบบนี้มันคงจะอิ่มทั้งท้องและอิ่มทั้งใจจริงๆ

ส่วนตอนกลางคืนก็บอกเลยว่าสวยมากกกก เป็นร้านอาหารที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนบ้าน





17 : พระธาตุธรรมรัตนเจดีย์
——
จริงๆแล้วที่นี่เป็นสำนักปฏิบัติธรรมนะครับ แต่ผมว่าเป็นสำนักปฏิบัติที่สวยงามร่มรื่นแห่งหนึ่งของไทยเลย ด้วยบรรยากาศรอบๆที่เขียวขจีและอุดมสมบูรณ์ ช่างเหมาะกับการมาปล่อยวางจิตใจกับเรื่องราวต่างๆ และกลับไปพร้อมด้วยใจที่มีแต่ความสุข



18 : ไร่องุ่นหอมแผ่นดิน
——
สถานที่สุดท้ายที่ผมจะพาไปในแม่อายคือ ‘ไร่องุ่นหอมแผ่นดิน’ แหมฤดูฝนทั้งที ลองมาเดินเล่นในสวนในไร่ดูครับ จะได้กลิ่นฝนจะลอยคลุ้งไปมาบนผืนหญ้า มันช่างเป็นกลิ่นที่รู้สึกดีและสดชื่นมากกกก ผมจึงขอพาทุกคนมาแวะกันก่อนกลับกันที่นี่เลย ซึ่งจะมีทั้งในส่วนของไร่องุ่น ห้องอาหาร ห้องกาแฟ และร้านขายของฝาก
มีมุมสำหรับถ่ายรูปเช็คอินสวยๆ แล้วบอกเลยว่าเที่ยวช่วงนี้ องุ่นกำลังเต็มไร่นะครับบบบ ใครมัวแต่รีๆรอๆ อดแน่นอนนน 5555+



19 : Chic 39
——
เอาละครับ นี่ก็ได้เวลามุ่งหน้ากลับเข้าสู่ตัวเมืองเชียงใหม่กันแล้ว แต่ด้วยความที่ระยะทางก็ไกลพอประมาณ ต้องขอแวะข้างทางนั่งพักผ่อนยืดเส้นยืดสายกันสักหน่อย ก็เลยขอแวะไปที่ร้าน ‘Chic 39’ ใน อ.แม่ริม เป็นคาเฟ่สวยๆ ที่ต้นไม้เยอะมากกกก มองไปทางไหนก็มีแต่สีเขียว ร่มรื่นสุดๆ
แต่ที่พิเศษไปกว่านั้นคือ สำหรับใครที่บินมาเที่ยวเชียงใหม่กันด้วยสายการบิน AirAsia แล้วเนี่ย บอกเลยว่า Boarding Pass มีค่ามากน๊าาา สามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดร้านค้าที่ร่วมรายการได้ และแน่นอนครับว่า ร้าน Chic 39 ก็ร่วมโปรโมชั่นด้วย อิ่มอร่อยในราคาสุดคุ้มไปอีกกกก
สามารถเช็ครายชื่อร้านค้าที่ร่วมรายการได้ที่นี่เลย >> goo.gl/vKFGGB


เป็นคนเรียบร้อย ตั๋วก็จะมีความพับมากมายหลายทบเกินไปหน่อย แต่ไม่ต้องห่วงครับ เรายังคงเอามาใช้เป็นส่วนลดได้เหมือนกัน 55555+

เอาละครับ ได้เวลาที่จะต้องบินกลับกรุงเทพฯกันแล้วววว เราก็จะเดินทางกลับกันด้วยสายการบิน AirAsiaและเพื่อความสะดวกรวดเร็วแบบไม่ต้องรอคิวนาน ก็มาเช็คอินกันเองก็ได้ที่ตู้บริการแบบนี้เลย

ได้เวลาที่ต้องบอกลาเชียงใหม่กันไปแล้ว ถือว่าเป็นจังหวัดที่มาก็ครั้งก็ประทับใจ มาทีไรก็มีความสุขกลับไปทุกที ยิ่งเมื่อเรามาเที่ยวต่างเวลาต่างฤดูกาล ก็ย่อมได้เห็นสีสันของธรรมชาติที่แตกต่าง
เพราะทุกช่วงเวลาของธรรมชาติล้วนมีเสน่ห์รอให้มาสัมผัส และถึงแม้ว่าช่วงนี้จะเข้าสู่ฤดูฝนแล้วก็ตามที
แต่เชื่อเถอะครับว่าต้นไม้ใบหญ้าและป่าเขากำลังสวยงามและอุดมสมบูรณ์ที่สุด และตอนนี้ทาง AirAsia ก็ขอชวนทุกคนเปิดประสบการณ์ใหม่ ให้เที่ยวเหนือในหน้าฝนแบบฉ่ำใจ ได้รู้จักที่เที่ยวใหม่ๆ มุมมองใหม่ๆ พร้อมตั๋วราคาประหยัด
ฤดูฝนนี้อย่าลืมจูงมือกันมายืนมองทะเลหมอก และอิ่มเอมใจไปกับความสดชื่น ความสวยงามของธรรมชาติกันนะครับ…
#เที่ยวเหนือให้ฉ่ำใจ #AirAsiaTravels #คนหลงทาง #เที่ยวเชียงใหม่