ค น ห ล ง ท า ง

บ้านแม่แจ๋ม ปลีกวิเวกหามุมพักผ่อน​ท่ามกลาง​สายน้ำและป่าเขา

  •  

พิกัด >> ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง
ค น ห ล ง ท า ง x vivo
——-

เมื่อวลีฮิตอย่าง ‘ลำปางหนาวมาก’​
กลายเป็นประโยคที่ใครต่อใครพูดกันซ้ำๆกันมานาน
และกลายเป็น​คำนิยามเมืองรถม้าแห่งนี้ไปโดยปริยาย​
.
.
สำหรับผมแล้ว&hellipลำปางหนาวมากมั้ย​ไม่รู้​
แต่ที่รู้ๆคือ​ธรรมชาติ​ของที่นี่สวยมากและยัง
อุดมสมบูรณ์​อยู่​มาก ซึ่งผมเองก็มาได้ซ้ำๆไม่มีเบื่อ
เพราะด้วยความที่ลำปาง ยังเป็นจังหวัดท่องเที่ยว
​เมืองรอง ผู้คนก็จะไม่เยอะแยะ​พลุกพล่าน​เหมือน
จังหวัดท่องเที่ยวหลัก ก็เรียกว่าเที่ยวกันได้
อย่างสบายใจเเละเต็มอิ่มสุดๆเลยล่ะครับ
.
.
และในทริปนี้เราจะไปเที่ยว ต.แจ้ซ้อน อ.เมือง​ปาน
พูดถึงอำเภอนี้หลายๆคนน่าจะรู้จักบ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน
เป็นอย่างดี แต่จริงๆแล้วที่นี่มีอะไรมากกว่า
บ่อน้ำพุร้อนอันโด่งดัง กับหมู่บ้านเล็กๆอย่าง
‘บ้านแม่แจ๋ม’ ที่ชวนให้เรารู้สึกถึงบ้านแม่กำปอง
ในยุคแรกๆ กับบรรยากาศ​บ้านพัก และร้านกาแฟ
แบบใกล้ชิดติดน้ำตกที่ไหลทอดยาวเป็นลำธาร
หล่อเลี้ยง​ผู้คนที่บ้านแม่แจ๋ม
.
.
แล้วแน่นอน​ครับ มาเที่ยวที่สวยๆ บรรยากาศ​ดี
เกินร้อยแบบนี้ก็ต้องไม่พลาดที่จะพา Vivo V17
เครื่อง​โปรดของผมมาออกทริปด้วย เพราะนอกจาก
Vivo V17 จะมีดีไซน์​ที่สวยล้ำดูทันสมัย​แล้ว
ฟังก์ชั่น​ในการถ่ายภาพก็ตัดเต็มเช่นกัน
สำหรับใครที่สนใจ อยากจับจองเป็นเจ้าของ
Smart​ Phone ดีๆในราคาที่จับต้องได้ ก็สามารถ
​เข้าไปชมข้อมูลโปรดักซ์ Vivo V17 เพิ่มเติมที่….

Website >> https://bit.ly/2UTtaoy
Facebook >> https://www.facebook.com/VivoThailand/

——-
— รายละเอียด​ที่พัก ‘บ้านธารแสงดาว’​

▪️บ้านเดี่ยวหลังเล็กที่ผมเข้าพัก : 400 บาท/คืน
(พักได้ 2 คน)​
▪️บ้านกระท่อมเล็ก​ริมน้ำ : 300 บาท/คืน
(พักได้ 2 คน)​

**แบบบ้านกระท่อมริมน้ำจะเป็นห้องน้ำรวม
ส่วนแบบอื่นเป็นห้องน้ำส่วนตัว มีน้ำอุ่นให้พร้อม
และเป็นห้องพัดลม (อากาศ​เย็น นอนสบายทั้งคืน)​

Tel. 098-5134599

สำหรับทริปเที่ยวบ้านแม่แจ๋มของผมในทริปนี้ ด้วยความที่ผมเช่ารถขับเที่ยวยาวๆ มาตั้งแต่พะเยาจนถึงลำปางและตั้งใจไว้ว่าจะลองหาโอกาสมาเยือนที่บ้านแม่แจ๋มกันดู ด้วยความที่นี่นั้น บรรยากาศจะใกล้เคียงกับแม่กำปองมากเลยครับ เป็นหมู่บ้านเล็กๆ มีที่พักและร้านกาแฟริมน้ำ รอบๆก็รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ-ป่าเขาดูร่มรื่น อยากให้ลองปลีกวิเวกจากแม่กำปองที่คนเยอะๆ แล้วมาเที่ยวพักใจที่แม่แจ๋มแทน ผมรับรองว่าจะสุขใจ แถมยังเที่ยวสบาย เที่ยวแบบชิลล์สุดๆ ไม่ต้องแย่งกันเที่ยวแย่งกันกินให้หมดสนุก

ส่วนที่พักที่ผมจะพักกันก็คือที่นี่เลยครับ ‘บ้านธารแสงดาว’ เป็นที่พักแนวแคมป์ปิ้งริมน้ำ บรรยากาศดี๊ดี สงบ และเป็นส่วนตัวมากๆ แถมราคาก็สบายกระเป๋า เริ่มต้นแค่คืนละ 300 บาทเท่านั้นครับ ฟินทั้งธรรมชาติฟินทั้งราคาไปเลยงานนี้

ดูสิครับ ธรรมชาติขนาดไหนนนนน แบบว่ามองไปทางไหนก็ร่มรื่นมากๆ

อย่างที่ผมบอกครับว่าทริปนี้ผมก็ไม่พลาดที่จะพา Vivo V17 เครื่องโปรดผมมาออกทริปด้วย ความพิเศษของรุ่นนี้คือกล้องหลังที่มีถึง 4 เลนส์ เพื่อรองรับการถ่ายภาพได้ครบทุกแบบ กับเลนส์ Ai อัจฉริยะ

▪️ กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล
▪️ เลนส์ Super Wide-Angle 8 ล้านพิกเซล
▪️ เลนส์ Macro 2 ล้านพิกเซล
▪️ เลนส์ Bokeh 2 ล้านพิกเซล

โซนนี้จะเป็นโซนกระท่อมน้อยริมน้ำและลานแคมป์ปิ้ง ใครที่มากันเป็นแก๊งค์ หรือมากันเป็นครอบครัวอยากจะทำกิจกรรมรอบกองไฟ ปิ้งย่างทำอาหารกันริมน้ำก็ตรงนี้เลยครับ

เรามาดูในส่วนของห้องพักกันดีกว่าครับ ที่บ้านธารแสงดาวนี้จะมีห้องพักอยู่ด้วยกันประมาณ 4-5 แบบ นอนได้ตั้งแต่ 2-6 คน แต่ผมจะพาไปดูคร่าวๆสัก 2 แบบที่น่าสนใจ ซึ่งแบบแรกก็คือกระท่อมน้อยริมน้ำนี่แหละ ราคาคืนละแค่ 300 บาท นอนได้ 2 คน ก็ตกคนละแค่ 150 บาท!! ลักษณะบ้านก็จะเป็นกระท่อมทรงโค้งมนขนาดพอดีๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ห้องน้ำรวมแต่มีน้ำอุ่นพร้อมและ Wifi Free เปิดประตูห้องออกมาเป็นลำธารใสไหลเย็นอยู่หน้าบ้านเลย

ภายในห้องนอนนะครับ ถึงจะเป็นห้องพัดลม แต่กลางคืนนี่พัดลมก็แทบจะไม่อยากเปิดเลยแหละ เพราะอากาศเย็นจับใจ นอนซุกผ้าห่มสบายใจกันไป~

ส่วนหลังนี้จะเป็นหลังที่ผมพักนะครับ มีห้องน้ำให้ส่วนตัวอยู่ติดกับบ้านเลย คืนละ 400 บาท ความสะดวกสบายพื้นฐานก็ครบครันนะครับในราคาสุดคุ้มแบบนี้

ด้วยความที่เรามาถ่ายสถานที่ท่องเที่ยวกัน หลักๆแล้วผมก็ใช้เลนส์ Super Wide เป็นหลัก เพราะจะได้ภาพวิวที่ดูอลังการกว่าเลนส์มนระยะ Normal ทั่วไป จะให้ได้รูปออกมามีมิติกว่า และเก็บรายละเอียดได้ครบกว่า สามารถถ่ายภาพมุมกว้างพิเศษถึง 120 องศา

ด้านในห้องพักเรียกว่าโอเคเลยครับ สะอาดน่าอยู่ น้ำอุ่นก็มีให้พร้อม ห้องน้ำส่วนตัว ราคาต่างกับแบบแรกแค่นิดหน่อย ก็เลือกได้แล้วแต่ความชอบเลย

ตกเย็นไปเดินเล่นแถวๆริมน้ำกันอีกครับ บรรยากาศดี มีแสงยามเย็นรำไร สดชื่นนนนนนน

ช่วงเวลาเเห่งความสุขกับบรรยากาศแคมป์ปิ้งริมน้ำ

เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งที่พักที่แนะนำ สำหรับใครที่มาเยือนแม่แจ๋มและอยากหาที่พักบรรยากาศดีๆ ติดริมน้ำ ร่มรื่นเป็นธรรมชาติ แล้วยังอยู่ใกล้สถานที่น่าสนใจรอบๆอีกหลายแห่ง ว่าแต่จะมีที่ไหนอีกบ้าง? ตามมาเลยครับผมจะพาไปดูกัน…

เริ่มค่ำแล้วจะถ่ายภาพในช่วงเวลาแบบนี้ก็ต้องเลือกใช้ Super Night Mode ที่ช่วยลดการเกิด Noise และทำให้ได้ภาพกลางคืนออกมาได้น่าประทับใจ

ในยามเช้าผมก็ตื่นมาเดินเล่นในหมู่บ้านแล้วไปหาอะไรกินรองท้องสักหน่อย ก็ไปเจอร้านนี้ครับ ‘กาแฟสดดอยแม่แจ๋ม’

ที่นี่นอกจากจะเป็นจุดที่แวะมาทานอาหารเช้าแล้ว ก็ยังมีโรงคั่วกาแฟของตัวเองด้วย กาแฟที่ใช้ ก็เป็นเมล็ดกาแฟที่ปลูกและผลิตเอง เป็นกาแฟอาราบิก้าแท้ 100% ที่เข้มข้น และหอมกรุ่นกาแฟแท้จากธรรมชาติ และด้วยความพิเศษเฉพาะของดอยแม่แจ๋ม ที่รายล้อมด้วยแหล่งน้ำพุร้อน 4 ด้าน คือ น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน น้ำพุร้อนสันกำแพง น้ำพุร้อนแม่ขะจาน และน้ำพุร้อนบ้านโป่งกุ่ม เกิดการระเหยของไอน้ำพุร้อน กลั่นลงมาเป็นฝนตกรดต้นกาแฟ ทำให้ต้นกาแฟที่นี่ได้รับสารอาหารพิเศษจากธรรมชาติ และอุดมด้วยแร่ธาตุที่ไม่เหมือนใคร ทั้งหอมกรุ่นและรสชาติรสดีถูกใจคอกาแฟแน่นอน

เติมพลังด้วยข้าวต้มยามเช้า

ต่อไปเราไปเที่ยวมชมบ้านแม่แจ๋มในละแวกนี้กันดีกว่า เดินถัดจากที่พักบ้านธารแสงดาวไปเพียงไม่กี่ก้าว ก็จะมีร้านริมน้ำตก บรรยากาศน่านั่งมากๆ ที่ ‘ร้านพรร่มเย็น’ คือแบบมีความชิลล์จริงๆ เพราะจะได้นั่งจิบเครื่องดื่มแก้วโปรด ไปพร้อมกับการนั่งเอาเท้าจุ่มน้ำให้ผ่อนคลายไปกับธรรมชาติรอบๆ

ถึงจะเป็นร้านเล็กๆ แต่บรรยากาศไม่เล็กเลยล่ะ อย่างที่ผมบอกครับว่าถ้าใครที่ชอบแม่กำปอง แต่ไม่อยากไปเจอคนเยอะๆ ลองเปลี่ยนมาเที่ยวกันดูก็ดีไม่น้อย

ไหนๆ เราก็มาออกทริปกับ Vivo V17 เครื่องนี้กันแล้ว และภาพส่วนใหญ่ผมก็จะใช้เลนส์ Wide Angle เป็นหลัก เพื่อให้เก็บวิวของแต่ละสถานที่ได้ครบถ้วน ว่าแล้วเราลองมาใช้เลนส์ Super Macro กันดูบ้างครับ ซึ่งเลนส์นี้มีความละเอียดถึง 2 ล้านพิกเซลทำให้ถ่ายภาพแบบ Close Up ออกมาได้ชัดทุกรายละเอียด และสามารถถ่ายใกล้วัตถุได้มากถึงระยะ 4 เซนติเมตรเลย

มาครับเดินถัดไปอีกหน่อน ก็เจอร้านริมน้ำตกอีกร้านที่บรรยากาศดีไม่แพ้กันเลย กับร้าน ‘กาแฟสดจันทร์ศิริ’

ผมละแอบอิจฉาคนที่นี่เสียจริง ที่มีร้านน่านั่งหลายร้านอยู่ในหมู่บ้านแบบนี้ มีลมพัดเย็นๆจากธรรมชาติที่ไม่ใช่ลมเย็นจากแอร์แบบชีวิตในเมืองที่หายใจเข้าไปแล้วไม่สดชื่นแบบนี้ วิวน้ำตกที่เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติไม่ใช่บ่อหรือลำธารที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเลียนแบบของจริง เวลาที่ได้มาพักผ่อนในที่แบบนี้แล้วความรู้สึกอิ่มใจ และความความสดชื่นมันต่างกันเยอะเลยนะครับ

วิวดีแบบนี้ก็ยก Vivo V17 ขึ้นมาเก็บภาพกันหน่อย ใช้เลนส์ Super Wide ซึ่งจริงๆแล้ว ก็ไม่จำเป็นว่าเราต้องถ่ายแค่แนวนอนเสมอไป ลองใช้ Super Wide กับแนวตั้งดูบ้างครับ ก็ได้ภาพมุมมองที่แปลกตาดูสวยงาม

จัดข้าวผัดกระเพราสักหน่อย เมนูธรรมดาแต่กินได้ไม่มีเบื่อ

มุมนี้คือมานอนฟังเสียงน้ำไหลไปเรื่อยๆ มีลมเย็นพัดผ่าน เพลินมาก จะเผลอหลับเอาได้ง่ายๆเลย

รอบๆเมืองแม่แจ๋มก็ยังมีจุดแวะเที่ยวอีกหลายเเห่ง อย่างที่นี่ก็จะเป็นไร่สตอเบอรี่

หรือจะขึ้นไปเที่ยวที่วัดเวียงหวาย เมื่อมาถึงก็จะเห็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีขาวสวยสง่าอยู่ที่ด้านหน้าวัดดูเป็นเอกลัษณ์ และด้วยความที่วัดตั้งอยู่บนเนินเขา ทำให้เมื่อเราขึ้นมาบนวัดเวียงหวายนี้แล้ว ก็จะได้มองเห็นวิวเมืองแม่แจ๋มมุมสูงแบบที่มองเห็นหมู่บ้านด้านล่างได้อย่างชัดเจน

เมืองแม่เเจ๋มที่น่ารัก อบอุ่น และทุกชีวิตก็ดำเนินไปอย่างเรียบง่ายไม่หวือหวา

ถือว่าที่ ‘บ้านแม่แจ๋ม’ แห่งนี้เหมาะกับการมาแวะเที่ยวพักผ่อนมากๆ ไม่ว่าจะตั้งใจมาที่นี่โดยตรงหรือจะแวะสัก 2 วัน 1 คืนก่อนจะเดินทางต่อ เพราะเส้นนี้สามารถขับต่อไปออกเชียงใหม่เลยก็ได้ เรียกว่าเป็นเมืองที่เหมาะกับการมาใช้ชีวิตแบบ Slow life ไร้ซึ่งความวุ่นวาย และได้พักใจ พักผ่อนเติมพลังกันให้เต็มที่จริงๆ

#คนหลงทาง #เที่ยวลำปาง #ที่พักลำปาง #แม่แจ๋ม#VivoV17 #VivoThailand


  •