“สปป. ลาว” คืออีกหนึ่งประเทศแห่งวัฒนธรรม การท่องเที่ยวแนว Slow Life ที่ไม่ว่าใครก็ตามที่อยากหาเวลามาพักกายพักใจ ที่นี่คืออีกหนึ่ง Dream Destination ที่ต้องหาโอกาสมาเยือน…
มาครับ… ทริปเยือนแดนไกลทริปนี้ ขอพาทุกคนไปเที่ยวบ้านพี่เมืองน้องของไทยกันที่สปป.ลาว กับการเดินทางที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจนเกินไป ไปสัมผัสกับวัฒนธรรมของเมืองริมโขง
ซึ่งจุดหมายปลายทางของผมในทริปนี้ เราจะไปตะลอนกันที่ “เวียงจันทน์” ซึ่งรับรองเลยครับว่าจะต้องมีอะไรน่าสนใจมาฝากทุกคนแน่นอนครับ เพราะเราจะไปพักผ่อนในที่พักกลางป่า เป็น Hidden Gem ที่นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน เที่ยวชิลล์ บรรยากาศดีสุดๆ นอกจากนี้เราก็จะยังไปตามเก็บจุด Landmark สวยๆ ในตัวเมืองเวียงจันทน์ รวมทั้งคาเฟ่เท่ๆ ที่มีมุมถ่ายรูปอีกเพียบบบ!!

วัดสีเมือง
พิกัด >> https://goo.gl/maps/htram8hijFZaPcot6
——
เอาล่ะครับบบ หลังจากที่เดินทางข้ามด่านกันมาเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่เราจะไปที่พักที่จองไว้กันนั้น ผมว่าเราไปแวะไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อนดีมั้ยครับ
ไหนๆ ก็มาเยือนลาว ประเทศแห่งวัฒนธรรมและวัดสวยทั้งที โดยเราจะไปกันที่ “วัดสีเมือง” กันเป็นที่แรกเลยครับ

ที่วัดสีเมืองแห่งนี้เป็นสถานที่ตั้งของเสาหลักเมืองเวียงจันทร์ ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปมากมายประดิษฐานอยู่
ซึ่งจากตำนานของชาวลาวได้กล่าวว่าการตั้งเสาหลักเมืองในอดีตจะต้องหาคนมาสังเวย ที่ต้องฝังคนทั้งเป็นหรือฆ่าคนแล้วฝังไว้ ตามความเชื่อที่ว่าเพื่อให้วิญญาณได้เป็นผู้ปกปักรักษาสถานที่นั้นๆ ตลอดไป ซึ่งปรากฏว่าเสาหลักเมืองที่วัดสีเมืองแห่งนี้ ได้มีสตรีที่กำลังตั้งท้อง 3 เดือน ยอมกระโดดลงไปในหลุมเพื่อให้ตัวเองฝังอยู่ภายใต้เสาหลักเมืองนี้ ซึ่งสามีของสตรีคนดังกล่าวเป็นทหารที่เพิ่งเสียชีวิตจากภัยสงคราม ถือเป็นตำนานที่มีเรื่องราวน่าสนใจ และเล่าขานกันมาถึงปัจจุบันครับ

โรงแรม Nam Pien Yorla Pa
พิกัด >> https://g.page/nam-pien-yorlapa?share
——
ต่อไปเราจะไปยังที่พักที่ทำการจองไว้ล่วงหน้า ที่โรงแรม “Nam Pien Yorla Pa” ซึ่งยังคงอยู่ในเขตของเวียงจันทน์นะครับ แต่จะต้องออกจากตัวเมืองมาพอสมควร ประมาณ 80 กม. ได้ครับ เพราะโซนนี้จะเป็นโซนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ อารมณ์คล้ายๆ เชียงใหม่บ้านเราเลยครับ ที่แบบพอขับออกจากตัวเมืองมาหน่อยก็มีแต่พื้นที่ป่าสวยๆ
สำหรับใครที่เคยมาลาวแล้ว แต่อยากปลีกวิเวกไปในที่ที่ไม่ซ้ำใคร ไปลองหาลาวมุมใหม่ๆ นอกจากวังเวียง หลวงพระบางที่ดังๆ แล้ว ก็ลองมาที่นี่กันได้ครับ นักท่องเที่ยวไม่พลุกพล่าน เป็นส่วนตัวดีมาก
มาดูที่บรรยากาศของที่พักกันหน่อย โอ้โหหหหห… ใครที่ชอบพักผ่อนแบบใกล้ชิดธรรมชาติต้องติดใจแน่นอน เรียกว่านอนกันกลางป่าแบบนี้เลย แถมยังติดลำธารใสๆ ไหลเย็นแบบนี้ ฟีลดี สดชื่นสุดๆ นะบอกเลย
——สนใจสอบถาม / จองที่พักได้ที่…
Facebook : Nampien Yorla Pa


วิลล่าห้องกระจก ที่เห็นวิวธรรมชาติได้รอบหลัง ราคาคืนละ 75 USD หรือประมาณ 2,600-2,700 บาท หรูหราเหมือนคืนละ 4,000-5,000 บาทบ้านเราเลย ดีงามมากๆ

ในส่วนของห้องพักที่นี่ก็มีหลายแบบเลยครับ แต่ทริปนี้เราจองกันไว้ 2 แบบ แบบที่ 2 จะเป็นเต็นท์กระโจม อยู่ติดริมน้ำเลยครับ แล้วราคาคือดีมากกก แค่ 28 USD หรือประมาณ 980-1,000 บาทไทย ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงิน ไม่เกินนี้ครับ
เอาเป็นว่าแบงก์พันยังมีทอน แถมมีอาหารเช้าให้ เต็นท์ก็ติดแอร์ไปอี๊กกก เต็นท์ใหม่ สะอาด น่านอน มาเถอะครับคุ้มจริงๆ


น้ำตก Nam Pien Yorla Pa
พิกัด >> https://goo.gl/maps/N79SBtoxH6dFUVYdA
——
หากใครได้มาพักที่โรงแรม Nam Pien Yorla Pa ที่นี่ก็จะมีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำกันด้วยครับ ใครที่เป็นสายลุย สาย Adventure ก็มีหลากหลาย เช่น ปั่นจักรยาน, Zipline, ขับรถ Atv และอื่นๆ ที่น่าสนใจ แต่ของผมเลือกกิจกรรมเดินป่าเที่ยวน้ำตกครับ ซึ่งเราจะไปกันที่น้ำตก Nam Pien Yorla Pa ชื่อเดียวกับที่พักเลย เพราะอยู่ในเขตพื้นที่เดียวกันคือ Nam Pien Yorla Pa Park

สำหรับการเดินป่าเที่ยวน้ำตกนั้นก็จะมีค่าบริการอยู่ที่คนละ 400 บาท โดยเจ้าหน้าที่จะนัดเราตอนเช้าเลยครับ แล้วมีรถมารับที่หน้าโรงแรมไปส่งเรายังจุดเดินสะพานเเขวน
ซึ่งเราจะต้องเดินกันทั้งหมด 26 สะพานครับ… ใช่ครับ อ่านไม่ผิด เดินทั้งหมด 26 สะพาน 55555+ เอาสิครับบบ ใครที่กลัวความสูงอาจจะมีเสียวๆ นิดหน่อย ใช้เวลาเดินกันประมาณ 1 ชั่วโมง แต่สะพานดี แข็งแรงนะครับ แค่มีโยกๆ บ้างตามสไตล์สะพานแขวนเท่านั้นเอง

ป่าที่นี่ถือว่าอุดมสมบูรณ์มากครับ นักท่องเที่ยวก็ยังมากันไม่เยอะ ธรรมชาติยังคงเดิมๆ อยู่ มาเยือนแล้วรับรองไม่ผิดหวังครับ

Kung’s Cafe Lao
พิกัด >> https://goo.gl/maps/YCEpbCf7DYesFK8y5
——
เรียกว่าเป็นร้านที่นักท่องเที่ยวยกให้เป็นร้านลับเเห่งเวียงจันทน์ เพราะลับจริงๆ ครับ หาทางเข้าแทบไม่เจอ อยู่ในซอยเล็กซอยน้อยสุดๆ นะ 55555+ “Kung’s Cafe Lao” เป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่เสิรฟ์ทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม เเต่เห็นร้านเล็กๆ แบบนี้ ตกแต่งในสไตล์บ้านๆ แต่เป็นร้านที่ไม่ธรรมดาเลย เพราะผมค้นหาเจอจากใน Google map แล้วมีลูกค้ารีวิวหลายร้อยรีวิวกันเลยทีเดียว ก็เลยต้องมาตามหาร้านนี้ แล้วมาลองชิมกันดูสักหน่อย…อ่ะ! ต้องบอกเลยว่าไม่มีผิดหวังครับ รสชาติดี เมนูของคาวที่เป็นสไตล์ Local ของลาวก็มีหลากหลาย แวะมาฝากท้องกันได้นะครับบบ
ร้านเปิดทุกวัน 07.30 am – 04.00 pm


Nuan Ka Fei
พิกัด >> https://goo.gl/maps/VBXDfjMkSxTmMdCW6
——
สาย Hipster เรียนเชิญทางนี้เลยครับบบ ร้านต่อไป เราจะไปกันที่ “Nuan Ka Fei” ร้านที่มีชื่อเรียกสั้นๆ ว่า “นวน” อาหารสไตล์ Asia Fusion เรียกว่าเป็นร้านตกแต่งออกมาได้เท่มากกก ให้ฟีลเหมือนผับย้อนยุคเล็กๆ ในฮ่องกง แต่ละมุมคือดี มาแล้วมุมถ่ายรูปเยอะเลยครับ
ซึ่งทางร้านก็ได้ inspiration ในการดีไซน์ร้านมาจากภาพยนตร์ฮ่องกงเรื่อง A Love For Love ก็เลยได้กลิ่นอายความเป็นฮ่องกง อบอวลไปทุกมุมแบบนี้แหละครับ
Cafe เปิดช่วงเช้า – กลางวัน : 08.30 am – 03.00 pm
Bar เปิดช่วงเย็น – ค่ำ : 05.00 am – 11.00 pm
มีดนตรีสด ช่วงวันพฤหัส – เสาร์





หากได้มาแวะที่ร้านนี้ ผมแนะนำว่ามาช่วงกลางคืนก็จะดีมากเลยนะ ไฟสวย แสงสวย มีดนตรีสดด้วย นั่งกันเพลินมากๆ

พระธาตุหลวงเวียงจันทน์
พิกัด >> https://goo.gl/maps/PpT9o7T9y3A5JkhJ7
——
สถานที่ต่อไป เราจะไปกันที่ “พระธาตุหลวงเวียงจันทน์” เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง หากไม่ไปกราบไหว้สักการะก็เหมือนไปไม่ถึงเวียงจันทน์เลยทีเดียว
พระธาตุหลวงเวียงจันทน์นับเป็นพระธาตุที่เก่าแก่มากครับ สันนิษฐานว่าสร้างในช่วงปี พ.ศ. 238 โดย “บุรีจันอ้วยล้วย” หรือ “พระเจ้าจันทบุรีประสิทธิศักดิ์” เจ้าเหนือหัวผู้ครองนครเวียงจันทน์พระองค์แรก พร้อมกับพระอรหันต์ 5 องค์ นับมาจนถึงปัจจุบันก็มีอายุกว่าสองพันปีเลยทีเดียว

พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ มีลักษณะสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น มีองค์พระธาตุความสูง45 เมตร มีลักษณะคล้ายดอกบัวตูม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์คำสอนของพระพุทธเจ้า ด้านในจะเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุครับ

ลามาลาว
พิกัด >> https://goo.gl/maps/vRqr7CkZz8agQSuU8
——
อีกหนึ่งสถานที่ที่อยากแนะนำ ร้าน “ลามาลาว” เป็นอะไรที่มากกว่าคาเฟ่ และร้านอาหาร แต่ยังเป็น Co-working Space อีกด้วย ใครที่ชอบงานดีไซน์ และอยากสถานที่เปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน มาหาแรงบันดีๆ ที่นี่ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจ ภายในก็จะมีความเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์ และ Art Gallery ย่อมๆ
นอกจากนี้ก็ยังมีร้านกาแฟ ให้ได้นั่งทำงานไป จิบกาแฟไปแก้ง่วง และเมนูเครื่องดื่มอื่นๆ เพิ่มความสดชื่นให้สมองกระปรี้กระเปร่าดีทีเดียวครับ
ร้านเปิด 08.30 am – 06.00 pm หยุดทุกวันอาทิตย์


วัดสีสะเกต
พิกัด >> https://goo.gl/maps/EJS2wp2Y5GhSX7469
——
อีกหนึ่งสถานที่สำคัญที่อยากแนะนำกัน “วัดสีสะเกต” เป็นวัดเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเวียงจันทน์ สร้างขึ้นครั้งแรกประมาณปี 2094 สมัยพระเจ้าโพธิสารราช และได้มีการสร้างใหม่ตามแบบศิลปะไทยสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นช่วงพ.ศ. 2361 – 2367 และในปัจจุบันเป็นที่ประทับของพระสังฆราชลาว
เดิมที ที่นี่มีชื่อว่า “วัดสะตะสะหัสสาราม” ซึ่งมาจากพระพุทธรูปกว่าเเสนองค์ที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างมาประดิษฐานไว้ที่วัดแห่งนี้

ประตูชัย
พิกัด >> https://goo.gl/maps/9ucCciQxjkwNDYDx9
——
ยามเย็นๆ แบบนี้ ผมตั้งใจไว้แล้วครับว่าจะไปกันที่ “ประตูชัย” หรือที่คนลาวเพิ่นเว้ากันว่า “ประตูไซ” นั้นเอง
ที่นี่เป็นอีกสถานที่ ที่เราต้องแวะมากันให้ได้เลยครับ เป็น Landmark สำคัญของเมืองเวียงจันท์ สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงประชาชน และทหารชาวลาวที่เสียสละชีวิตในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง และสงครามการกอบกู้เอกราชจากฝรั่งเศส หลังจากนั้นเกิดการเปลี่ยนการปกครองเป็นสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ จึงเปลี่ยนชื่อจาก “อานุสาวะลี” เป็น “ปะตูไซ” เพื่อเป็นเกียรติแก่ชัยชนะของคณะปฏิวัติ และเรียกใช้เรียกกันถึงปัจจุบัน

เราสามารถเดินขึ้นไปด้านบนของประตูชัย เพื่อชมวิวมุมสูงของนครหลวงเวียงจันทน์แบบ 360 องศาได้นะครับ ซึ่งจะมีความสูงประมาณ 7 ชั้น มีบันไดวน 197 ขั้น โดยแต่ละชั้นยังมีร้านของขายของที่ระลึก ตกแต่งด้วยศิลปะแบบล้านช้าง มีการนำสัตว์ในตำนานตามความเชื่อของศาสนาพุทธ เช่น กินรี พญานาค และเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู


ช่วงค่ำเป็นอะไรที่สวยมากกกก เพราะที่ลานประตูชัยจะมีการจัดการแสดงน้ำพุประกอบดนตรีและแสงสีด้วยครับ


ถนนคนเดินเวียงจันทน์ริมโขง
พิกัด >> https://goo.gl/maps/587uyT4ahoQkDoLNA
——
หลังจากชมไฟสวยๆ ที่ลานน้ำพุประตูชัยกันไปแล้ว ค่ำคืนนี้อีกยาวไกล เราจะยังไม่นอนกันครับ เพราะจะไปต่อกันที่ “ถนนคนเดินเวียงจันทน์” หรือ “เวียงจันทน์ Night Market” กันสักหน่อยครับ เป็นตลาดกลางคืนที่มีขนาดใหญ่มากแห่งหนึ่งของเมืองเวียงจันทน์ ซึ่งมีของขายเยอะมากๆ รวมทั้ง Street foods มากมาย แถมราคาก็ไม่แพง
มาที่เดียวได้ทั้งช้อปปิ้ง ชิมอาหารอร่อย หาซื้อของฝาก แล้วก็ยังได้ชมวิวริมแม่น้ำโขงตอนกลางคืนอีกด้วยล่ะครับ


#คนหลงทาง #เที่ยวลาว #ประเทศลาว #เวียงจันทน์