หากคุณเป็นคนกลัวความสูง หรือความมืดฉันใด ผมแนะนำให้มาหักดิบความรู้สึกกลัวเหล่านั้นกันในสถานที่แห่งนี้ มาที่เดียวมีทุกรสชาติ
ถ้าคิดว่าการไปเขาช้างเผือกนั้นจองยากที่สุดแล้ว ผมต้องบอกเลยว่าที่ ‘ลำคลองงู’ นั้น สถิติการจองได้มีน้อยกว่าหลายเท่า ถ้าใครจองได้เรียกว่าต้องแทบปิดซอยเลี้ยง…ส่วนผมเหรอครับ ก็จองไม่ได้สิครับบบบ 55555+ คนทั่วประเทศเค้าโทรกันสายโทรศัพท์แทบไหม้ยังไม่ได้ ยิ่งเป็นผมไม่มีได้แน่นอน ก็เลยไปขอแจมกับชาวบ้านชาวช่องกัน ไปแบบงงๆ มึนๆ แทบไม่รู้จักใคร มิตรภาพไปหาเอาข้างหน้าอีกเช่นเคย
อุทยานแห่งชาติลำคลองงู ตั้งอยู่ที่อำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ไม่ใกล้ไม่ไกล แต่ทำไมโอกาสจะได้ไปมันยากจัง แถมยังเปิดสั้นๆ แค่ช่วง มีนา-เมษา เท่านั้นนนน อากาศร้อนๆแบบนี้ ก็มาดับร้อนกันในถ้ำนี่แหละครับ ชุ่มฉ่ำแบบแอดเวนเจอร์สุดๆ ผมคิดว่าที่นี่ น่าจะเป็นการเดินป่าสไตล์แบบนี้เพียงไม่กี่แห่งในประเทศไทย ที่เราจะได้เดินใส่ชูชีพเข้าป่า ไต่หิน มุดดิน ลอดถ้ำมืดๆ โดดน้ำตกจากผา เรียกว่าไปไม่มีตัวแห้งกันเล๊ยยยย
ที่นี่เหมาะมากครับสำหรับคนที่ชอบลุยๆ แบบสุดๆ ลองมาเดินป่าแนวสนุกๆ ขึ้นๆลงๆ จนผมนี่ได้แผลกลับมาเต็มตัว ตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อย คนอื่นไม่มีใครเค้าเป็นไรกันหรอกนะครับ แต่งี้ไม่ระวัง คนอื่นเค้ากว่าจะโดดน้ำลงมา ก็มีการส่องๆๆดูๆ ร่องหินร่องอะไร ส่วนไอ้นี่ไม่เลยครับ ส่องกันอยู่นั้น งั้นโดดละนะ…เท่านั้นละครับ ตู๊มมมม ลงน้ำไปก็มันส์ มารู้สึกเจ็บๆอีกทีตอนหลัง แหม..ก็เล่นไม่ดูอะไรเลย อยากโดดอย่างเดียว
#ค่าใช้จ่าย คนละ 1330 บาท สิ่งที่มีให้ประมาณนี้นะครับ
– ค่าเข้าอุทยาน
– อาหาร 5 มื้อ
– ค่าลงทะเบียนจอง
– ชูชีพ
– ค่ารถจากอุทยานไปจุดเดิน
– เจ้าหน้าที่นำทาง 2 คน / กลุ่ม 10 คน
#สิ่งที่ต้องเตรียมไปเอง ที่นอนหมอนมุ้งทั้งหลายทั้งแหล่นะครับ เต๊นท์/ไฟฉายแบบใส่ที่หัว/ของใช้ส่วนตัวสำหรับใครที่สนใจอยากไป ผมไม่เเน่ใจว่าตอนนี้ยังเปิดรับจองอยู่มั้ยนะครับ อาจจะเต็มแล้วหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆ แนะนำไป join กับคนจัดทริปดีกว่าครับ จ่ายคนละพันนิดๆ (ของผมต่างคนต่างไป แล้วเจอกันที่อุทยาน) สะดวกกว่าโทรจองเอง ซึ่งโอกาสได้นั้นหริบหรี่ มืดพอๆกับแสงในถ้ำเลยทีเดียว 5555+ ถ้าพร้อมจะลุยแล้วก็เก็บกระเป๋าใส่ชูชีพให้พร้อม แล้วออกเดินทางไปพร้อมกับ #คนหลงทาง กันเลยครับ…
#ทริปลำคลองงู ของผมในครั้งนี้ เรียกว่าเป็นสถานที่ที่รู้สึกมานานแล้วว่า อยากไปให้ได้สักครั้งนึง เมื่อถึงวันที่เปิดให้เดิน ก็ต้องไปอย่่างไม่ลังเล เพราะจะได้มาเจออะไรแบบทุกรสชาติจริงๆ ทริปของผมเริ่มต้นในคืนวันศุกร์ ขับรถไปเองจากกทม.ไปอุทยาน เนื่องจากกลุ่มของผมนัดกันไปเจอที่นั่นเลย ก็ต่่างคนต่างเดินทางกันมา ขับรถมาก็แอบไกลใช่เล่น แถมหลงอีกกกก 5555+
เรื่องหลงทาง ผมควรจะเริ่มชินกับมันได้เเล้ว เพราะเป็นแบบนี้ประจำ แต่มันพีคตรงที่ หลงแล้วไปถามทางกับคุณลุงที่หูไม่ค่อยดี คาดว่าน่าจะหูตึงนิดหน่อย โอ้โหวววว คุยกันเหนื่อยเลยครับ คืออยู่ข้างหน้ากันแค่นี้ แต่ตะโกนกันลั่นทองผาภูมิ 555555+ คือผมได้ยินลุงนะ แต่ลุงไม่ค่อยได้ยินผม ตะโกนคุยกันมันส์เลยครับ กว่าจะถามทางเสร็จ เจ้าหน้าที่มาพอดี ก็เป็นอันว่าได้ติดรถเจ้าหน้าที่ไปที่จุดกางเต๊นท์ ส่วนรถก็จอดไว้ข้างหน้านี่แหละครับบบบ
ทริปนี้เป็นทริปที่สามารถมาได้แบบ 2 วัน 1 คืน ไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไป โดยจะแบ่งการเดินออกเป็น 2 วันนะครับ ระยะทางก็ใกล้ๆ ประมาณ 3 กิโล แต่วันแรกเดินช่วงแรกอาจจะร้อนนิดนึง เพราะเดินผ่านป่าที่เป็นไผ่แห้งๆตลอดทาง ระอุดีทีเดียว
เดินครับเดินนน เราจะเดินไปเรื่อยๆ บางช่วงอาจต้องมีปีนหินบ้าง ควรจะระมัดระวังเรื่องรองเท้ากันด้วยนะครับ เพราะเราจะต้องทั้งลุยน้ำและปีนป่าย
น้ำใสๆ ปลาที่นี่ก็แอบเยอะอยู่นะครับเนี่ยยยย ท่าทางจะคุ้นชินกับคนแล้วนะผมว่า
มื้ิอกลางวันที่นี่ก็มีเตรียมมาให้นะครับ กินง่ายๆแถมอร่อย เอาเป็นว่ามาแล้วมีอาหารให้ทุกมื้อ สะดวกดีมาก ไม่ต้องขนมาเอง แถมเจ้าหน้าที่ก็ต้องบอกเลยว่าประทับใจมากกกกกกก ดูแลทุกคนดีมากครับ คอยระวัง คอยช่วยเหลือเป็นอย่างดี
สำหรับการเดินวันแรกนี้ สถานที่ที่เราจะไปกัน ก็คือ #ถ้ำเสาหิน ครับ เราจะต้องฝ่าถ้ำมืดๆเข้าไป ดมขี้ค้างคาวไปเพลินๆ 555+ เดินเรื่อยๆก็ชินจมูกไปเองครับ ข้างในคือมืดมาก ต้องอย่าลืมที่จะเอาไฟฉายกันมาคนละอันๆด้วยนะครับ
ถ้ำที่นี่ ผมว่าดูลึกลับดีจริงๆ เหมือนจะทะลุมิติไปอีกโลกนึงเลย
มาถึงข้างในแล้ว ก็ต้องมีลุยน้ำกันหน่อย เปียกๆกันไปนะครับ เสาหินจะรอเราอยู่ข้างใน มาครั้งนี้รูปอาจจะมีไม่ค่อยชัดบ้างนะครับ ไม่มีเวลามาตั้งกล้อง DSLR ถ่ายเป็นเรื่องเป็นราวเลย GoPro ล้วนๆเลยครับ แล้วก็วิ่งไปวิ่งมา ในถ้ำก็สลัวๆ 555+
รู้สึกเหมือนวินมอเตอร์ไซค์มาส่องไฟหาอะไรในถ้ำ 5555+
หลังจากดูเสาหินกันเสร็จแล้ว เราก็จะมาเล่นน้ำกันแล้วครับ ร้อนๆแบบนี้ เรามาโดดน้ำดับร้อนกัน…ใช่ครับ หลายคนอาจจะงง ว่าเราดูเสาหินเสร็จตอนไหน แล้วไหนละเสาหิน สารภาพเลยว่าไม่ได้ถ่ายไว้ครับ
คือในถ้ำมืดมากจริงๆ ปรับแสงอะไรใน GoPro ก็ยังไม่ชินมือเท่ากล้องใหญ่ ก็ตัดสินใจว่า ถ่ายมาคงดูไม่ได้ เก็บไว้เป็นจินตนาการของใครของมันแล้วกันนะครับ ว่าเสาหินแต่ละคนจะหน้าตาเป็นยังไง บอกแล้วครับว่า #จินตนาการสำคัญกว่าความรูั งั้นเราไม่ต้องรู้ก็ได้ครับ ก็จินตนาการมันไปเลยเนอะ 555+
พร้อมจะเล่นน้ำแล้วครับ ดูจากหน้าก็น่าจะรู้ว่าอยากเล่นขนาดไหนนนนน
ระรื่นดีมั้ยละครับ 5555+
ทำงานไม่มีนะหน้าระรื่นแบบนี้ มาเที่ยวทีไร พลังงานไม่รู้มาจากไหนเต็มไปหมด มาครับมาๆ เรามาโดดน้ำดับร้อนกัน นับ 1-3 ในใจแล้วพุ่งเลยยยย
บางคนก็มีครับ กล้าๆกลัวๆ ลังเลจะโดดดีไม่โดดดี ทำใจดีสู้เสือเข้าไว้ครับ ตู๊มมมมเดียว เอาชนะความกลัว แล้วจะติดใจมีรอบ 2,3,… อีกแน่นอนนน
เช้าวันต่อมา หลังจากเมื่อวานเราไปถ้ำเสาหินกันมาแล้ว ก็จะกลับมานอนที่ลานกางเต๊นท์กัน แล้วเช้าก็ออกเดินทางใหม่ ไป #ถ้ำนกนางแอ่น กัน บอกเลยว่าไฮไลท์เด็ดอยู่ที่วันนี้นี่เลยครับ
เริ่มออกเดินทางด้วยการนั่งรถจากจุดกางเต๊นท์ ไปที่จุดเริ่มเดินกันครับ ค่าใช้จ่ายตรงนี้รวมไปกับ 1330 บาทแล้วนะครับ
ถึงแล้วครับบบ วันนี้ผมขอพี่เจ้าหน้าที่ว่าออกแต่เช้าๆไวๆหน่อย คนจะได้ไม่เยอะ เมื่อวานเดินแบบว่าคนมหาศาล ไหลๆกันไปตามถ้ำ วันนี้ขอเดินแบบสบายๆไม่้เบียดใครดีกว่า
ทางเดินวันนี้เราจะสนุกมากครับ เดี๊ยวก็ขึ้นเดี๊ยวก็ลง ปีนบ้าง ลงน้ำบ้าง เดินสนุกกว่าวันแรกเยอะเลยครับ ส่วนตรงจุดนี้คือเรากำลังจะเดิน #ประตูทะลุมิติ กัน คือเห็นเป็นช่องๆรูๆนิดเดียว แบบเเค่เอาตัวผ่านไปได้ แต่ลอดเข้าไปจะเป็นยังไง ตามมาดูครับ…
กำลังจะลอดแล้วน๊าาาา
โอ้วววว ทะลุมิติจริงๆครับ คือพอมุดรูนั้นออกมา กลายเป็นอีกโลกนึงไปเลย เห็นเวิ้งถ้ำยิ่งใหญ่สวยงาม คืออลังการเกินความสามารถที่สมองผมจินตนาการไว้ 5555+
ธรรมชาติช่างสร้างให้ทุกสถานที่ล้วนมีความงามในแบบของใครของมัน ทุกๆที่ที่ผมได้ไปทำให้ รู้สึกว่า ประเทศไทยนั้นช่างมีเสน่ห์จริงๆ เที่ยวไปเถอะครับบ้านเรา ไปจนแก่ก็ยังไปไม่หมดเลยยยย
ตรงจุดนี้น้ำจะเชี่ยวอยู่พอสมควร เราต้องค่อยๆเดินกันไปครับ ชูชีพใส่ไว้ให้พร้อม
เปียกกว่าสงกรานต์ก็ทริปนี้นี่แหละครับ 555+
ดูน้ำสิครับ แรงมากจริงๆ ต้องเดินระวังมากๆ ทางเจ้าหน้าที่เองก็จะคอยประคองเรา ให้เดินเกาะๆเชือกกันไป
นี่คือความงามของหินงอกหินย้อยที่ไม่รู้ว่ากว่าจะเป็นแบบนี้ได้ ผ่านมากี่ร้อยกี่พันปีแล้ว
ความอลังการของถ้ำ ที่ผมแนะนำว่าต้องลองมาดูด้วยตัวเองให้เห็นกับตาสักครั้ง เรียกว่าเป็นงานละเอียดจากธรรมชาติที่สร้างมา ทุกซอกทุกมุมทุกจุด คือมีแต่หินงอกหินย้อยขึ้นลายหินสวยงาม
ถึงจุดนี้ เราจะต้องโดดน้ำกันอีกครั้งแล้วครับผม ตัวไม่ทันได้แห้งแน่นวลลล 555+
ลอยน้ำไปพร้อมๆกัน แล้วเราจะลอยล่องไปจนสุดปลายทาง…
จบการเดินทาง 2 วัน 1 คืนง่ายๆ ที่จะหาโอกาสจับจองคิวมากันได้แสนย๊ากกกยากกก
ผ่านถ้ำผ่านธรรมชาติที่แฝงความลึกลับความน่าสงสัยไว้มากมาย แต่มันเต็มไปด้วยรสชาติของความสนุกและความผจญภัย ผมได้รู้สึกเหมือนเราเข้าไปอยู่ในอีกโลกที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน และได้อารมณ์การเดินทางที่แตกต่างจากทุกทริปที่เคยไปมาอย่างสิ้นเชิง
ติดตามการเดินทางของ #คนหลงทาง ได้ใหม่ในทริปหน้านะครับ สำหรับใครที่มีโอกาสได้ไปที่ลำคลองงูแห่งนี้เช่นเดียวกัน ก็เอาภาพมาฝากมาบอกเล่ากับผมกันนะครับ อยากรู้ว่าได้กันคนละกี่แผล 5555+ ผมนี่เล่นเพลินจนไม่กลัวเจ็บ กลับมาโดนไปหลายจุด ตอนเที่ยวไม่รู้สึก แหมมมม…มารู้สึกแค่ตอนอยู่ที่บ้านนี่แหละ สงสัยจะเป็นโรคภูมิแพ้วันจันทร์ กลับมาก็ต้องตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันต่อไปครับ 
#LostInLamklongngu2017#คนหลงทาง