ค น ห ล ง ท า ง

เที่ยวแหลก แหวกโตเกียว : MINAKAMI แหวกโตเกียวมาเที่ยวธรรมชาติในแบบที่สาย Green ต้องไม่พลาด

  •  

ทริปตะลุยแดนอาทิตย์อุทัยในแบบที่ต้องขอแหวก
โตเกียวเอาใจสาย Green ในทริปนี้ เราจะไปตะลอนๆกัน
ที่ &lsquoเมืองมินาคามิ&rsquo กันครับ เมืองเล็กๆที่อาจจะยังไม่ได้
มีนักท่องเที่ยวมาเยือนกันมากนัก แต่บอกเลยนะครับ
ว่าธรรมชาติดีงามมากกกกก ป่า เขา ต้นไม้
น้ำตกและสายหมอกครบ!
.
.
นอกจากนี้เมืองมินาคามิ ขึ้นชื่อว่าเป็น &lsquoเมืองแห่งออนเซ็น&rsquo
ของญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดกุมมะ นึกถึงวันสบายๆ
ที่จะได้นั่งผ่อนคลายอยู่ในออนเซ็นกันให้สบายตัว
ในที่พักที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ ซึ่งถ้าเรานั่งรถไฟ
จากโตเกียวไปก็ใช้เวลาเพียงแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั้นครับ
หรือถ้าขับรถไปเอง ก็ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงชิลล์ๆ
ก็ได้มาสัมผัสญี่ปุ่นในมุมใหม่ๆที่ไม่ซ้ำใครกันแล้วววว
เพราะเราจะไปญี่ปุ่นในแบบที่ไม่ใช่ไปตามจุด Landmark
ที่ใครๆก็ไปกัน แต่เราจะไปสร้าง Landmark กันเอาเอง
ด้วยการเช่ารถขับเที่ยวเองเลยครับ 55555+ ชอบตรงไหน
เจออะไรน่าสนใจ ก็จอดหามุมเด็ดกันได้เลย!

📌ถ้าอยากเที่ยวญี่ปุ่นแบบไปตามหาความเขียวแบบนี้ก็รีบตามกันมาเลยดีกว่า เพราะตอนนี้ Air Asia เค้ามีโปรดี๊ดี จ่ายหลักพันได้เที่ยวชมวิวธรรมชาติหลักล้านนะครับบบบ

ตั๋วราคาดีๆผมเลยต้องเอามาแชร์ให้ทุกคน กับโปรโมชั่น AirAsia บินตรงดอนเมืองสู่โตเกียว ✈ราคารวมเที่ยวเดียว เริ่มต้นเพียง 2,900 บาท

✈ ราคาบุคคลทั่วไป 2,940 บาท

📣 สำรองที่นั่ง : 16 ก.ย. 2562 – 22 ก.ย. 2562

📣 เดินทาง : 16 ก.ย. 2562 – 31 มี.ค. 2563

จองหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://air.asia/whNUA

📌ทีเด็ดอีกอย่างคือทางสายการบินมีแจกคูปอง “Thai AirAsia X ชวนบิน ฟิน around Japan ปี 2” ให้ผู้โดยสารทุกคน เป็นคูปองส่วนลดต่างๆไม่ว่าจะเรื่องช้อป กิน เที่ยว ของดีเลยอันนี้ สามารถดาวน์โหลดใช้ได้เลย ทุกรูทของญี่ปุ่น อย่าพลาด! https://air.asia/61xvk

และการเดินทางไปญี่ปุ่นของผมในทริปนี้ เราก็จะไปกับสายการบินแอร์เอเชียเอ็กซ์ กับ Airbus A330 neo ลำแรกในไทยบินตรงจากดอนเมืองถึงโตเกียว เป็นเครื่องบินลำใหม่ แถมใหญ่ ที่นั่งกว้างขึ้น เพราะบริเวณด้านหน้าออกแบบใหม่ ที่สำคัญทุกที่นั่งมีปลั๊กให้ชาร์ตไฟด้วยนะ สบายมากๆ

สำหรับใครที่เดินทางไปญี่ปุ่นกับแอร์เอเชียเอ็กซ์ นอกจากจะได้บินในราคาเบาๆแล้ว ก็ยังมีแจกคูปองให้ได้ใช้กันด้วย เพิ่มความฟินและคุ้มค่าในการมาเยือนแดนอาทิตย์อุทัยเข้าไปอีกกกก เพราะมีทั้งส่วนลดร้านค้าในแหล่งช้อปปิ้ง, รถเช่า, ตั๋วรถบัส, ค่าเข้าสถานที่ และร้านอาหารที่ร่วมรายการ ทุกคนสามารถโหลดไปใช้ได้ที่ลิงค์นี้ครับ >> https://air.asia/61xvk

(คูปองใช้ได้ยาวจนสิ้นปี 62 นี้เลยยยย)

ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงเราก็มาถึงที่สนามบินนาริตะกันแล้วครับ

ซึ่งในทริปนี้ผมก็แพลนไว้ว่าจะขอแหวกโตเกียวไปหามุมเขียวๆ มุมธรรมชาติกันที่นอกเมืองสักหน่อย ก็ตั้งใจไว้ว่าจะไปกันที่ ‘เมืองมินาคามิ’ กันครับ ซึ่งก็ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงจากโตเกียว โดยการเช่ารถขับไปเอง

ก่อนจะเดินทางมาผมก็ได้มีไปทำใบขับขี่สากลไว้ล่วงหน้าแล้วครับ ไม่ยุ่งยากเลย ทำง่ายมากๆ ใช้เอกสารตามนี้เลยครับ….

▪ สำเนาหน้า Passport
▪ สำเนาบัตรประชาชน
▪ สำเนาใบขับขี่
▪ รูปถ่าย 2 นิ้ว
▪ ค่าธรรมเนียม 505 บาท

เตรียมให้พร้อมแล้วไปยื่นที่ขนส่งเลยครับ คิวน้อย…คนน้อย ไปทำแปปเดียวเสร็จรอรับกลับมาได้เลย ซึ่งในใบขับขี่สากลก็จะมีบอกเลยครับว่าใช้กับประเทศอะไรได้บ้าง ซึ่งเยอะมากกกก แทบจะใช้ได้ทั่วโลกเลย

ในส่วนของการเช่ารถนั้นผมก็จองผ่านทาง https://www2.tocoo.jp/en วิธีการก็คล้ายการเช่ารถที่ไทยเลยครับ เลือกวัน-เวลา และสถานที่รับคืนรถ ซึ่งผมก็เลือกเป็นของ Toyota เอาไว้ ถึงเวลาก็ไปรับที่ศูนย์และมุ่งหน้าไปที่เมืองมินาคามิกันครับ

01 : Ayaka Lake พิกัด : https://goo.gl/maps/LH1biAeyA3QfKmL29

——

ข้อดีของการเช่ารถขับนั้นนอกจากความสะดวกในการที่ไม่ต้องไปหาขึ้นรถหลายต่อแล้ว ก็ยังช่วยประหยัดเงินในการเดินทาง ถ้ามากันหลายคนเช่ารถเลยจะคุ้มที่สุด

นอกจากนี้ข้อดีอีกหนึ่งอย่างที่ผมชอบมากๆเลยก็คือ ชอบตรงไหนก็แวะจอดได้เลย เราก็จะดูวิวสวยไปตลอดทาง อย่างสถานที่แรกที่อดใจจะไม่จอดไม่ได้จริงๆเลยก็คือ ‘Ayaka Lake’ (ทะเลสาบอายากะ) ซึ่งบรรยากาศดีมากๆ ที่เห็นนี้คือเป็นเวลาตอนบ่ายๆเลยนะครับ แต่ฟินสุดครับ สดชื่นมากกก หมอกลอยเยอะมากๆ

รถที่ผมเช่ามาหน้าตาจะคล้ายๆรถตู้ขนาดเล็กนะครับ ลักษณะตัวรถจะสั้นๆกว่ารถเก๋งที่เราขับกันทั่วไปพอสมควร ที่ญี่ปุ่นจะนิยมขับรถแบบนี้กันเยอะมาก น่าจะเพราะสะดวกในการหาที่จอดรถ โดยเฉพาะในเมืองที่ค่าจอดแพงและหาที่จอดค่อนข้างยาก แต่ถ้ามาเที่ยวนอกเมืองแบบนี้สบายๆเลยครับ

และด้วยความบังเอิญครับ ขับรถต่อไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอกับลำธารและเห็นมีทางเดินลงไปอยู่ ก็เลยแวะลงไปสักหน่อย ก็ได้ภาพสวยๆจากมุมนี้

เที่ยวแบบผมคือเที่ยวแบบไม่ค่อยรู้ล่วงหน้านะครับว่าจะไปไหน เน้นไปลุ้นเอาหน้างานตามใจอยากเลยว่าจะเจออะไร 5555+ บอกเเล้วครับว่าเราจะไม่เที่ยวตาม Landmark ที่ใครๆก็ไป แต่เราจะสร้าง Landmark ขึ้นมาเอง จะได้เที่ยวแบบไม่ซ้ำใคร แหวกโตเกียวหามุมใหม่กันไปแบบสุดๆ

02 : สะพานระหว่างทางไปศาลเจ้าชินโต
พิกัด : https://goo.gl/maps/HyWi8oMqi4TkG5Nk7

——

ขับรถตะลอนๆไปตามถนนเส้น Okutone-Yukemuri ที่จะมุ่งหน้าไปเมืองมินาคามิก็เจออะไรเด็ดตลอดทางเลยครับ นี่ก็ขอแวะถ่ายกับมุมตรงสะพานสีแดงตัดกับหมอกด้านหลังสีขาวสวยๆสักหน่อย วิวดี๊ดี

03 : ศาลเจ้าชินโต
พิกัด : https://goo.gl/maps/BgBqExDePdRgAtic7

——

อยู่เมืองไทยถ้าอยากกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เราก็ต้องไปวัด แต่ถ้ามาญี่ปุ่นก็ต้องเป็นที่ศาลเจ้าชินโตเลยครับ ซึ่งชาวญี่ปุ่นจะเชื่อกันว่าเป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้า บรรยากาศของที่นี่ก็จะดูสงบและร่มรื่น มีหมอกลงบางๆด้วยครับ เพราะมีฝนตกลงมาให้พอได้ชุ่มฉ่ำ

วิวสวยตรงบริเวณทางรถไฟก่อนที่จะไปต่อกันที่ ‘ภูเขา Tanigawadake’ เพื่อไปนั่งกระเช้าชมวิวกัน

04 : Tanikawadake Ropeway
พิกัด : https://goo.gl/maps/Ve9YGbjYpJaCJAVx9

——

มาเที่ยวญี่ปุ่นทั้งทีเราจะดูวิวแต่ในระดับสายตาไม่ได้ครับ Bird’s eyes view ต้องมาาาา ขึ้นไปนั่งกระเช้าทะลุหมอกกันหน่อย ค่าขึ้นคนละประมาณ 2,060 เยน

05 : จุดชมวิวระหว่างทางไป Takaragawa Onsen

——

ระหว่างที่ผมกำลังมุ่งหน้าไปยังที่พักที่จองไว้สำหรับค่ำคืนนี้ ต้องบอกเลยครับว่าวิวสองข้างทางนั้นสวยมากจนอดจอดแวะอยู่บ่อยๆไม่ได้เลย

อย่างจุดนี้คือมองมาแล้วเหมือนภาพวาดเลยครับ บรรยากาศชวนฝันมากๆ มีทั้งแม่น้ำ น้ำตก สายหมอก ขุนเขา และหมู่บ้านกลางหุบเขา

ขับต่อไปอีกนิดก็เจอกับสะพานที่จะถึงก่อนทางเข้าที่พักก็ได้ภาพมุมสวยมาเหมือนกัน ซึ่งสะพานสีแดงนี้ยังคงมีรถสัญจรไปมาได้ตามปกติ ส่วนสะพานสีขาวตอนนี้ได้ปิดการสัญจรไปแล้ว

07 : Takaragawa Onsen
พิกัด : https://g.page/takaragawaonsenousenkaku?share

——

สำหรับที่พักของผมที่เมืองมินาคามินี้ก็คือที่นี้เลยครับ เรียกว่าเป็นที่พักสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ เหมาะกับคนที่อยากมาพักผ่อนแบบได้แช่ Onsen ผ่อนคลายร่างกาย แถมบรรยากาศรอบๆก็ยังธรรมชาติมากๆ

ห้องพักแบบญี่ปุ่นเลยครับ ราคาอยู่ที่ประมาณคืนละ 4,000 บาท พอตกกลางคืนก็จะมีคนมาปูที่นอนให้เรา

เวลาที่เราอยู่ในที่พักก็จะมีชุดยูกะตะแบบนี้ให้ใส่เหมือนกันทุกคนนะครับ

มีน้ำตกอยู่ติดกับที่พักเลยครับ นอนหลับแบบฟังเสียงน้ำตกกันไป

08 : หมู่บ้าน Takumi-No-Sato
พิกัด : https://goo.gl/maps/juVCts9BMBJ2QS5o9

——

ต่อไปเราจะไปเยือนกันที่หมู่บ้านหัตถกรรมกันครับ ถ้าอยู่เมืองไทยก็จะนึกถึงหมู่บ้าน OTOP อะไรประมาณนั้น แต่ถ้าเป็นที่ญี่ปุ่นก็จะให้อารมณ์ที่แตกต่างออกไป ด้วยความที่มีความชัดเจนในเรื่องของวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ ซึ่งเราก็จะได้กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ๊นนนญี่ปุ่นพื้นเมืองตั้งแต่ก้าวเท้าเข้าไปเลย เพราะไม่ว่าจะเป็นสไตล์ของอาคารบ้านเรือน และอะไรต่างๆ ดูแล้วน่ารักลงตัว

แวะหาอะไรทานรองท้องกันหน่อย กับร้านราเม็งสไตล์โบราณ

ซึ่งในหมู่บ้านมีก็จะมีศาลเจ้าด้วย

คาเฟ่น่ารักๆ ต้นตำรับความ Minimal ที่แสนเรียบง่าย

09 : Cafe Shop Gallery
พิกัด : หมู่บ้าน Takumi-No-Sato

——

ยกมาแนะนำกันเป็นพิเศษ เพราะผมชอบบบบสถานที่นี้มากจริงๆ กับคาเฟ่ที่เรียบง่ายแต่ดูอบอุ่นมากกกก เหมือนเราไปแวะนั่งจิบกาแฟที่บ้านเพื่อน

ภายในร้านก็จะอบอวลไปด้วยบรรยากาศที่ดูอบอุ่น และมีงานศิลปะ งานฝีมือให้เราได้เดินชม

มุมน่ารักๆภายในร้าน ที่เหมาะกับการนั่งจิบกาแฟคู่ไปกับการอ่านหนังสือเล่มโปรดสักเล่ม

10 : น้ำตก Fukiware
พิกัด : https://goo.gl/maps/ocN4kA8dzcQX7jDq6

——-

น้ำตกฟุกิวาเร หรือน้ำตกที่ถูกเรียกอีกชื่อว่าเป็น ‘ไนเเองกาล่าญี่ปุ่น’ ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยงามอีกหนึ่งแห่งที่แนะนำว่าไม่อยากให้พลาด มีเส้นทางให้เดินชมน้ำตกได้อย่างใกล้ชิด

ด้านในมีศาลเจ้า และสะพานที่เป็นจุดให้เรายืนชมวิวน้ำตกทั้ง 2 ฝั่งและมองเห็นทิวเขาได้อย่างสวยงาม

หลังจากที่ไปแวะจุดนั้นจุดนี้กันมาตลอดทั้งวัน ค่ำคืนนี้ผมก็ย้ายเข้ามานอนในตัวเมืองมินาคามิ ก็ได้ออกมาเดินเล่นดูบรรยากาศในยามค่ำคืน

ยามเช้าในเมืองมินาคามิ ก็เดินเล่นหามุมถ่ายรูปกัน

และแล้วก็ได้เวลาที่จะเดินทางเข้าสู่โตเกียวเพื่อที่จะต้องกลับไทยกันแล้ว กับทริปที่ผมพาทุกคนมาเที่ยวแหลก แหวกโตเกียวแล้วมาตามหาความเขียวที่ญี่ปุ่นในแบบที่ใครๆก็ต้องหลงรัก…

#แหวกโตเกียว#ไปโตเกียวไปกับไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์#AirasiaTravel#คนหลงทาง#เที่ยวญี่ปุ่น


  •